BYD โต้ อียู เงินสนับสนุนจากจีน ‘จำกัด’ ชี้โตได้เพราะความสามารถล้วน

สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทม์ส (Financial Times) รายงาน (27 ก.พ.) ว่า BYD ปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหภาพยุโรป (EU) ว่าความสําเร็จของบริษัทรถยนต์จีนเกิดจากความช่วยเหลือจากรัฐในขณะที่บรัสเซลส์เดินหน้าสอบสวนว่าเงินอุดหนุนในท้องถิ่นช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนตัดราคารุ่นที่ผลิตในยุโรปหรือไม่

เงินสนับสนุนจากจีนจำกัด

“ความสําเร็จของเราไม่ใช่เพราะเงินอุดหนุนของรัฐบาล แต่เป็นเพราะเรามีเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ และประสิทธิภาพการจัดการของเราก็สูง" ไมเคิล ชู (Michael Shu) ประธาน BYD ฝั่งยุโรปหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนําของจีนกล่าว

"เป็นเพราะเราลงทุนในเทคโนโลยีนี้เร็วกว่าคู่แข่งมาก ไม่ใช่เพราะเงินอุดหนุน" 

การสอบสวนของคณะกรรมาธิการยุโรปเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขันของจีนในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะนําไปสู่อัตราภาษีที่สูงขึ้น ก่อนหน้านี้เอกอัครราชทูตจีนประจํายุโรปนิยามการเคลื่อนไหวนี้ว่า "ไม่ยุติธรรม"

 

เงินอุดหนุนการผลิตที่ผู้ผลิตรถยนต์ได้รับจากจีนนั้น "จํากัดมาก"

ที่ผ่านมาผู้ผลิตรถยนต์เช่น Renault และ Stellantis เตือนว่าคลื่นของโมเดลจีนที่ถูกกว่าจะตัดราคารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตโดยบริษัทในยุโรป แต่ชูแย้งว่า

"พวกเขากลัวว่าจะไม่สามารถเสนอราคาที่แข่งขันได้เท่านั้นเอง"

BYD ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ได้เปิดตัวรถยนต์อีวีสามรุ่นทั่วยุโรปและกําลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และประเทศที่จําหน่าย ก่อนหน้านี้ชูกล่าวว่าบริษัทตั้งเป้าที่จะเป็นหนึ่งในผู้ขายอีวีอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคภายในปี 2030

เขากล่าวว่าต้นทุนของบริษัท "ลดลง" เนื่องจากผลิตรถยนต์ได้มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวเรือเพื่อขนส่งยานพาหนะจากจีนไปยังยุโรปซึ่งช่วยลดต้นทุนได้มากขึ้นเขา

แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราภาษีอาจส่งผลต่อความเร็วของการเปิดตัว แต่ "เรากําลังเตรียมการบางอย่าง . . . เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายของผลิตภัณฑ์ในตลาด" การรักษาราคาให้คงที่ "ค่อนข้างสําคัญสําหรับความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าและภาพลักษณ์ของแบรนด์"

เร่งสร้างโรงงานในฮังการี สู้สงครามการค้า

อัตราภาษีที่สูงขึ้น (Higher Tariffs) อาจทําให้ผู้ผลิตรถยนต์เพิ่มกําลังการผลิตตามแผนของโรงงานอีวีแห่งใหม่ที่กําลังสร้างในฮังการี เพื่อลดจํานวนรถยนต์นําเข้า

BYD คาดว่าจะเริ่มผลิตรถยนต์จากโรงงานใหม่ในฮังการีก่อนสิ้นปีหน้า แม้ว่าจะเพิ่งประกาศโครงการในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นก้าวที่รวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อสําหรับอุตสาหกรรมที่โรงงานอาจใช้เวลาสี่ปีขึ้นไปจึงจะเสร็จสมบูรณ์

ชูกล่าวว่า โรงงานในฮังการีวางแผนที่จะผลิตรถยนต์อย่างน้อย 150,000 คันต่อปี ซึ่งเป็นระดับขั้นต่ำสําหรับโรงงานผลิตรถยนต์มาตรฐาน "เรายังคงคุยกันว่าจะไปได้เร็วแค่ไหนและขายได้กี่คัน" แต่ต้องมีอย่างน้อย 150,000 "มิฉะนั้นต้นทุนจะสูงเกินไป"

BYD ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเลขการลงทุน เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการเจรจากับอียูเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินสําหรับโครงการดังกล่าว

นอกจากนี้ BYD มีโรงงานแบตเตอรี่ในฮังการีอยู่แล้ว และเลือกที่ตั้งของโรงงานใน เมืองเซเกด (Szeged) เนื่องจากอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยที่บริษัทฯ เห็นว่าเป็นพื้นที่รับสมัครงานที่มีศักยภาพ

บริษัทฯ ยังได้เปิดตัวเรือบรรทุกรถยนต์เพื่อจัดส่งยานพาหนะจากประเทศจีน ซึ่งเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมดังกล่าว ท่าทีครั้งนี้ช่วยลดการปล่อยมลพิษโดยใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนการขนส่งของบริษัทเมื่อเทียบกับการจ้างบุคคลภายนอกในการจัดส่งไปยังบริษัทอื่นชูกล่าว

"ความสามารถในการขนส่งเป็นคอขวดที่สําคัญ" เขากล่าว และเสริมว่าเรือลําใหม่สามารถแล่นตาม "การวางแผนของ BYD" แทนที่จะทิ้งรถไว้ในท่าเรือเพื่อรอเรือซึ่งมีราคาแพง

นอกจากนี้ สำนักข่าวเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ (South China Morning Post) รายงานเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ว่า BYD เปิดตัว YangWang U9 ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงราคา 1.68 ล้านหยวน (ราว 8.2 ล้านบาท) หวังสู้กับรายใหญ่อย่าง Ferrari และ Lamborghini

ด้านบทวิเคราะห์ของเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยว่า BYD นับเป็นแบรนด์รถยนต์อีวีสัญชาติจีนที่น่ากลัว ประเมินจากความต้องการท้าทายเจ้าตลาดของ BYD YangWang รวมทั้งจากการสนับสนุนของบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮททาเวย์ (Berkshire Hathaway) ของนักลงทุนระดับตำนานอย่างบัฟเฟตต์  

อ้างอิง

Financial Times 

SCMP