จีดีพี 'อินเดีย' โตแกร่ง 8.4% จ่อขึ้นแท่นเศรษฐกิจโตเร็วสุดในโลก
'อินเดีย' ขึ้นแท่นประเทศขนาดใหญ่ที่เศรษฐกิจโตร้อนแรงที่สุดในโลก หลังจีดีพีรายไตรมาสโต 8.4% ดันทั้งปี 2566 เติบโต 7.6% อานิสงส์ลงทุนภาคเอกชน - การใช้จ่ายด้านบริการ
กระทรวงสถิติอินเดีย เปิดเผยข้อมูลเมื่อวานนี้ (29 ก.พ.67) ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของอินเดียในไตรมาส 3 ของปีงบประมาณ 2566/2567 (ต.ค.- ธ.ค.2566) เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง และการใช้จ่ายด้านบริการที่ปรับตัวดีขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ตัวเลขดังกล่าวมากกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ และถือเป็นข่าวดีสำหรับรัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี เพราะอินเดียใกล้จะเปิดหีบเลือกตั้งในอีกไม่กี่เดือนนี้
นอกจากนี้ ทางการอินเดียยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีตลอดทั้งปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจะสิ้นสุดลงในเดือน มี.ค.2567 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 7.3% เพิ่มขึ้นเป็น 7.6% ซึ่งจะทำให้อินเดียเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยเฉพาะหากเทียบกับ "จีน" ที่จีดีพีในปี 2566 ขยายตัวได้เพียง 5.2%
"ข้อมูลการเติบโตล่าสุดแสดงให้เห็นว่า อินเดียมีเศรษฐกิจที่เติบโต 8% และกำลังเร่งตัวขึ้น ซึ่งทำให้อินเดียแตกต่างจากที่อื่นๆ ในโลก โดยตัวเลขการลงทุนบ่งชี้ถึงแนวโน้มจ่ายประเภททุน (Capex) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง" ราหุล พาโชริยา นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารบาร์เคลย์ กล่าว
นักวิเคราะห์ชี้ว่าการเพิ่มภาษีอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้จีดีพีอินเดียเพิ่มขึ้นเหนือคาดการณ์ โดยตัวเลขมูลค่าเพิ่มรวม (GVA) ซึ่งหักภาษี และเงินอุดหนุนออกจากตัวเลข จีดีพีขยายตัว 6.5% ในไตรมาส 4 ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้านั้นที่ขยายตัว 7.7%
ขณะที่วี อนันตะ นาเคศวรัน หัวหน้าที่ปรึกษาเศรษฐกิจอินเดีย เปิดเผยว่า อุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง และการลงทุนภาคเอกชนจะยังคงผลักดันการเติบโตต่อไป โดยเศรษฐกิจอินเดียกำลังดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์