แบงก์ญี่ปุ่นจ่อใช้ AI วิเคราะห์หุ้น พัฒนาตู้ ATM ระบบ AI ดึงเทคฯใหม่ดันกำไรโต

แบงก์ญี่ปุ่นจ่อใช้ AI วิเคราะห์หุ้น พัฒนาตู้ ATM ระบบ AI ดึงเทคฯใหม่ดันกำไรโต

กลุ่มแบงก์ญี่ปุ่นกำลังแข่งขันประยุกต์ใช้ AI ในธุรกิจ ตั้งแต่ระบบคอลเซ็นเตอร์ การวิเคราะห์หุ้น รวมไปถึงพัฒนาตู้ ATM ระบบ AI ดึงนวัตกรรมใหม่ดันกำไรโต กุญแจสำคัญทําให้โตเกียวเป็นศูนย์กลางทางการเงินโลก

สำนักข่าวนิกเคอิ รายงานถึงกลุ่มธนาคารในญี่ปุ่นกําลังแข่งขันกันเพื่อใช้ปัญญาประดิษฐ์ในธุรกิจของตน ตั้งแต่ระบบคอลเซ็นเตอร์และบริการ ATM ไปจนถึงการต่อต้านการฟอกเงินรวมถึงการวิเคราะห์หุ้น หลงจากตั้งเป้าที่จะเพิ่มผลกําไรและยกระดับราคาหุ้น

มาซาฮิโกะ คาโตะ (Masahiko Kato) ประธานสมาคมธนาคารญี่ปุ่นกล่าวว่า การใช้งาน AI ในหมู่ธนาคารญี่ปุ่นเติบโตอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา

จากธนาคารสมาชิกทั้งหมด 111 แห่ง พบว่ามี 40% กําลังใช้หรือเริ่มพิจารณาการใช้ AI โดยธนาคารยังได้ใช้ประโยชน์จากความสามารถของ Generative AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแชทบอท ChatGPT แบบ free-to-use สามารถผลิตข้อความ เสียง และรูปภาพในระดับความซับซ้อนซึ่งใกล้เคียงความเป็นมนุษย์

ในตอนนี้ธนาคารญี่ปุ่นนำ AI มาใช้งานเฉพาะงานภายใน เช่น การสรุปและแปลเอกสารภายใน และการเขียนโค้ดสำหรับการใช้งานภายใน และกําลังเตรียมที่จะนำไปใช้กับลูกค้าในบริการบางอย่าง เช่น ข้อความอีเมลถึงลูกค้าจะถูกร่างโดย generative AI และเริ่มใช้ AI เพื่อตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมจํานวนมากเพื่อตรวจจับกิจกรรมการฟอกเงิน

ธนาคารเซเว่น( Seven Bank ) ผู้ให้บริการ ATM  กำลังพัฒนาตู้เอทีเอ็มที่ติดตั้ง AI ซึ่งสามารถให้บริการลูกค้าได้ทั้งโดยใช้การแจ้งเตือนด้วยเสียงและภาพ ในหลายภาษา 

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาบริการคอลเซ็นเตอร์ที่สามารถตอบคําถามได้ 10-12 ภาษา

โตเกียวเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก

การนำ AI มาปรับใช้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของธนาคารญี่ปุ่นในการปรับปรุงการดําเนินงานและเพิ่มผลกำไร หลังจากที่ธนาคารญี่ปุ่นถูกประเมินคราคาหุ้นในระดับต่ำมานานแล้ว 

สมาคมธนาคารญี่ปุ่นกล่าวว่า ภายในสิ้นเดือนมีนาคม 2570 เช็คและใบเสร็จจะถูกแปลงเป็น”ดิจิทัล”อย่างสมบูรณ์ หลังจากที่มีความพยายามในการกําจัดเอกสารในการทำธุรกรรมทางการเงิน ทำให้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมากว่า 70% ของเช็คและใบเสร็จถูกแปลงเป็นดิจิทัล ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 4.43 หมื่นล้านเยน 

หากธนาคารทํากําไรได้มากขึ้นผ่านเทคโนโลยีทางการเงิน เท่ากับว่าจะมีเงินมากขึ้นในการลงทุนในนวัตกรรม ซึ่งรัฐบาลคิดว่าจะเป็นกุญแจสําคัญในการทําให้โตเกียวเป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับโลก

อ้างอิง Nikkei