จีน-รัสเซีย แห่ซื้อบ้านหรูในอาเซียน ‘ภูเก็ต’ติดอันดับ อนาคตจุดรวมคนทั่วโลก

ตอนนี้โครงการรีสอร์ท และที่อยู่อาศัยสุดหรู โครงการใหญ่ๆหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เกาะภูเก็ต ประเทศไทยได้กลายเป็นจุดสนใจจากกลุ่มผู้มีความมั่งคั่ง หรือ “คนรวย” จากจีนและรัสเซียที่กําลังวางแผนเพื่อเข้าพักระยะยาว

ไมว่าจะเป็นสถานที่ที่ใช้เวลาเดินเพียง 10 นาทีจากโรงแรมไปยังหาดทางตะวันตกของภูเก็ต และรีสอร์ทหรูในย่านดานัง ประเทศเวียดนาม

“ภูเก็ตจะกลายเป็นชุมชนที่ผู้คนจากทั่วโลกมารวมตัวกัน”

โฮ ควอน ปิง Ho Kwon Ping ประธานและผู้ก่อตั้ง Banyan Group ผู้พัฒนารีสอร์ทหรูคาดการณ์ว่าบริษัทกําลังพัฒนาคอนโดและที่อยู่อาศัยอื่นๆ มากถึง 6,000 แห่งในภูเก็ต ซึ่งเดิมมีรีสอร์ทอยู่แล้ว โดยคาดว่าจะมียอดขายรวม 2 พันล้านดอลลาร์

ในปี 2566 ความต้องการซื้อคอนโดในภูเก็ตแตะสถิติใหม่ ประมาณ 8,700 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าจากปี 2565 รวมทั้งมีรายงานว่า ในไตรมาสแรกของปี 2566 พื้นที่ทางตอนใต้ของภูเก็ต 60%  ส่วนใหญ่เป็นผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มาจากจีน รองลงมาคือชาวรัสเซีย 25%

พนักงานขายของ SKN Real Estate ในภูเก็ตบอกว่า ชาวจีนและรัสเซียซื้ออสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น 70% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโรคระบาด กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 40 หรือ 50 ปี โดยมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อยเกือบ 200,000 บาท

สำหรับนักลงทุนชาวจีนส่วนใหญ่นิยม “ซื้อเพื่อปล่อยเช่า“ ซึ่งให้บริการแก่นักท่องเที่ยวชาวจีนโดยเฉพาะ

ด้านยอดซื้อจากชาวรัสเซียเพิ่มขึ้นหลังจากเกิดสงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้กลุ่มคนรวยหาที่อยู่อาศัยใหม่ในช่วงเกิดสงคราม ซึ่งแน่นอนสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดึงดูดชาวรัสเซียอยู่แล้ว จุดสำคัญคือ มีเพียงไม่กี่ประเทศในภูมิภาคที่กําหนดมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ทําให้ชาวรัสเซียซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น

ด้านประเทศไทยพยายามดึงดูดกลุ่มคน”มั่งคั่ง” มีการออกวีซ่าพํานักระยะยาววีซ่า หรือ LTR คือ ที่เอื้อผลประโยชน์ในด้านภาษี เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดในการอยู่อาศัย และลงทุน ในกลุ่มบุคคลที่มีศักยภาพสูง หรือสำหรับคนรวย พบว่าในปีมีคนสมัครเข้ามาถึง 5 พันกว่าคน และใน 2565 มีคนสนใจเพิ่มขึ้น 160% จากปี 2562 

กรุงเทพฯยังเปิดตัววีซ่าพํานักระยะยาว สำหรับอาชีพที่มีทักษะสูงและบุคคลอื่น ๆ โดยมีใบสมัครประมาณ 4,800 ใบ

การพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วกำลังทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับพื้นที่สีเขียวลดลง ขณะที่ราคาขายเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว อาจเป็นนัยถึงสัญญาณฟองสบู่ในตลาด

 

อ้างอิง Nikkei