"คริสตาลินา จอร์เจียวา" อยากนั่งผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟต่อสมัยสอง

นางจอร์เจียวา เพิ่งได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากนายบรูโน เลอ แมร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส ในการประชุมกลุ่ม G20 ที่เซาเปาโล โดยระบุว่าเธอทำงานได้ "ยอดเยี่ยม" ในการนำไอเอ็มเอฟและฝรั่งเศสจะสนับสนุนการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง

การสนับสนุนของนายเลอ แมร์ มีความสำคัญมาก เนื่องจากประเทศในยุโรปมักเสนอชื่อผู้สมัครเพื่อเป็นผู้นำของไอเอ็มเอฟ แม้ว่าประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ทั้งหมดจะต้องเห็นชอบร่วมกันก็ตาม โดยการตัดสินใจขั้นสุดท้ายจะตกเป็นของคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นางจอร์เจียวาให้สัมภาษณ์กับทางรอยเตอร์ว่า เธอกำลังมุ่งเน้นไปที่งานในปัจจุบันและไม่ได้ครุ่นคิดว่าจะแสวงหาตำแหน่งในวาระใหม่หรือไม่

ทั้งนี้ นางจอร์เจียวา ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์ชาวบัลแกเรีย เป็นผู้หญิงคนที่สองที่ได้เป็นผู้นำไอเอ็มเอฟ และเป็นคนแรกจากประเทศในตลาดเกิดใหม่ที่ได้ดำรงตำแหน่งนี้

ในช่วงแรกของการดำรงตำแหน่ง นางจอร์เจียวาถูกวิจารณ์ทั้งจากภายในและภายนอกไอเอ็มเอฟ เนื่องจากเธอพยายามผลักดันให้มีการพิจารณาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในรายงานการประเมินเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก รวมถึงให้ความสนใจอย่างมากต่อตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนา

นางจอร์เจียวามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ยูเครนได้รับเงินกู้จำนวนมาก เพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจที่ตึงเครียดจากสงครามกับรัสเซีย นอกจากนี้ นางจอร์เจียวายังได้ปรับปรุงโครงการเงินกู้ขนาดใหญ่ของอาร์เจนตินา และทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้จีนยอมรับแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ

นอกจากนี้ นางจอร์เจียวายังผ่านพ้นปัญหาส่วนตัวครั้งสำคัญมาได้ในปี 2564 เมื่อเธอโดนกล่าวหาว่า ระหว่างที่เธอทำงานที่ธนาคารโลกในฐานะซีอีโอก่อนมารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของไอเอ็มเอฟนั้น เธอกดดันให้เจ้าหน้าที่แก้ไขข้อมูลเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ประเทศจีน อย่างไรก็ดี ภายหลังการตรวจสอบกรณีดังกล่าว คณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟแสดงความเชื่อมั่นต่อตัวนางจอร์เจียวาอย่างเต็มที่

แหล่งข่าวระบุว่า กระบวนการคัดเลือกผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟจะเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วเมื่อยุโรปมีฉันทามติร่วมกันสนับสนุนผู้สมัครหนึ่งคนได้แล้ว

ถึงแม้วาระของนางจอร์เจียวาจะยังมีต่อไปอีกหลายเดือนก็ตาม แต่แหล่งข่าวบางส่วนระบุว่า เป็นไปได้ว่าจะมีการตัดสินใจเลือกผู้อำนวยการก่อนการประชุมฤดูใบไม้ผลิประจำปีของไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลกที่จะมีขึ้นในช่วงวันที่ 15-20 เม.ย.นี้ ด้วยเหตุผลคือเพื่อไม่ให้ประเด็นเรื่องการเลือกผู้นำมากลบวาระสำคัญอื่น ๆ ในการประชุม