อ่านสัญญาณ ‘แบนติ๊กต็อก’ สหรัฐเอาจริงแบ่งขั้วจีน
ผู้เชี่ยวชาญเตือน สหรัฐเตรียมควบคุมจีนมากขึ้น เนื่องจากกำลังเดินหน้า“แบ่งขั้ว” จีนเต็มที่ ถึงขนาดอาจแบนติ๊กต็อก
KEY
POINTS
- สหรัฐมีแนวโน้มออกมาตรการควบคุมมากขึ้นเพื่อสกัดการแข่งขันจากจีน เนื่องจากกำลังเดินหน้า “แบ่งขั้ว” (decoupling) อย่างเต็มที่
- กฎหมายขายกิจการติ๊กต็อกจะเข้าสู่การอภิปรายของ ส.ส.ในวันพุธ (13 มี.ค.)
- ขณะนี้จีนกำลังถูกมองว่า เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ หลังการส่งออกรถยนต์สหรัฐลดลง
สตีเวน โอคุน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัทที่ปรึกษาเอแพค แอดไวเซอร์ส เผยในรายการ“Street Signs Asia” ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี เมื่อวันจันทร์ (11 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐมีแนวโน้มออกมาตรการควบคุมมากขึ้นเพื่อสกัดการแข่งขันจากจีน เนื่องจากกำลังเดินหน้า “แบ่งขั้ว” (decoupling) อย่างเต็มที่
“คำถามอยู่ที่ว่าขอบเขตจะกว้างแค่ไหน” โอคุนย้ำ
สัปดาห์ก่อน คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรลงมติด้วยคะแนน 50-0 เดินหน้าให้ไบต์แดนซ์ของจีนขายกิจการติ๊กต็อก ไม่เช่นนั้นแล้วแอพวีดิโอดังรายนี้ต้องถูกห้ามใช้ในสหรัฐ
ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กฎหมายขายกิจการติ๊กต็อกจะเข้าสู่การอภิปรายของ ส.ส.ในวันพุธ (13 มี.ค.)
“ตราบเท่าที่ยังเป็นของไบต์แดนซ์ ซึ่งจำเป็นต้องร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน ติ๊กต็อกย่อมเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อความมั่นคงแห่งชาติของเรา” คณะกรรมาธิการว่าด้วยพรรคคอมมิวนิสต์จีน สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐระบุในแถลงการณ์
โอคุนอธิบายว่า คณะกรรมาธิการฯ ต้องการรีเซ็ตจีน ด้วยการป้องกันไม่ให้จีนเข้าถึงตลาดสหรัฐ โดยเฉพาะในกิจการที่พรรคคอมมิวนิสต์สามารถควบคุมได้บางอย่าง จากนั้นสหรัฐก็ผลิตสินค้าขึ้นเองไม่ต้องพึ่งพาจีน “นี่เป็นแค่เศษเสี้ยวจากยุทธศาสตร์วงกว้าง”
เห็นได้ว่าช่วงไม่กี่ปีหลัง สหรัฐเพิ่มแรงกดดันต่อบริษัทจีน โดยเฉพาะในภาคส่วนเซมิคอนดักเตอร์ อีวี และไบโอเทค
ไม่กี่วันก่อนวุฒิสภาสหรัฐลงมติเห็นชอบร่างกฎหมายจำกัดการทำธุรกิจกับบริษัทไบโอเทคจีน อาทิ WuXi AppTec และ BGI จากความกังวลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ
ขณะนี้จีนกำลังถูกมองว่า เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ หลังการส่งออกรถยนต์สหรัฐลดลง และหลายบริษัท อาทิ เจนเนอรัลมอเตอร์ส ต้องลดปฏิบัติการในต่างประเทศ
สัปดาห์ก่อน เจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานสหรัฐเตือนว่า จีนอาจนำรถอีวีเข้ามาทุ่มตลาดสหรัฐ ซึ่งสหรัฐกังวลมาก
เดือนที่ผ่านมาทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐกำลังสอบสวนว่า การนำเข้ารถยนต์จีนเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือไม่ เพราะมีการเก็บข้อมูลอ่อนไหวเกี่ยวกับพลเมืองสหรัฐและโครงสร้างพื้นฐานแล้วส่งไปให้จีน
ด้านหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐได้ “วิธีใหม่ในการกดดันจีน” ข้อกล่าวหาที่สหรัฐมีต่อจีนถึงระดับ “ไม่น่าเชื่อ”
ในเดือน ต.ค.2565 สหรัฐใช้กฎหมายหวังสกัดจีนไม่ให้เข้าถึงชิปเซมิคอนดักเตอร์ไฮเทคและอุปกรณ์ผลิตชิปชั้นสูง ด้วยกังวลว่าจีนอาจนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร
หนึ่งปีต่อมา สหรัฐกล่าวว่า กำลังบังคับใช้กฎหมายเพิ่มเติมเพื่อปิดช่องว่างที่เกิดขึ้นหลังกฎหมายการส่งออกชิปเอไอปี 2565 มีผลบังคับใช้
“ถ้าสหรัฐผูกขาดยอดบนสุดของห่วงโซ่มูลค่าอย่างต่อเนื่อง ปล่อยส่วนล่างสุดให้จีน แล้วความเป็นธรรมและการแข่งขันจะอยู่ที่ไหน” หวังตอบโต้