'แอปเปิ้ล' ควัก 1.8 หมื่นล้านยอมจบ คดีวาดฝันนักลงทุนว่าตลาดจีนยังแกร่ง
กลุ่มนักลงทุนอังกฤษชนะคดี หลังแอปเปิลขอจ่ายเพื่อยอมความคดีที่ 'ทิม คุก' ถูกกล่าวหาทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดว่าตลาดจีนยังแข็งแกร่ง จนเข้ามาลงทุนในแอปเปิ้ล
บรรดาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น "แอปเปิ้ล อิงค์" (Apple) มักถูกฟ้องในคดีที่เกี่ยวกับผู้บริโภคทั่วไปเป็นหลัก เช่น ในเคสหัวชาร์จไอโฟนแบบ Lightning ที่ถูกศาลในยุโรปบังคับให้เป็นหัว type-C หรือคดีเมื่อเร็วๆ นี้เรื่องการผูกขาดตลาดเพลงในยุโรป
แต่ล่าสุดมีคดีที่น่าสนใจเกี่ยวกับด้าน "การลงทุน" เมื่อแอปเปิ้ลถูกฟ้องว่าทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดว่าตลาดในประเทศ "จีน" ยังแข็งแกร่งอยู่ จนนักลงทุนตัดสินใจเข้าซื้อหุ้นในแอปเปิ้ล ก่อนที่บริษัทจะออกคำเตือนเรื่องผลประกอบการตามมาไม่นาน
กรณีนี้เป็นการรวมตัวกันฟ้องของกลุ่มนักลงทุนที่นำโดยสภาเมืองนอร์ฟอล์ก และกองทุนบำเหน็จบำนาญในสหราชอาณาจักร โดยอ้างว่า "ทิม คุก" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของแอปเปิ้ล กล่าวกับนักลงทุนเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2561 ว่า แม้แอปเปิ้ลจะเจอแรงกดดันเรื่องยอดขายในตลาดหลายประเทศ เช่น บราซิล อินเดีย รัสเซีย และตุรกี เนื่องจากผลกระทบค่าเงินอ่อนค่า "แต่เขาไม่เห็นปัญหาแบบเดียวกันนี้ในตลาดจีน"
กลุ่มนักลงทุนอ้างว่า คำพูดดังกล่าวของคนระดับซีอีโอทำให้พวกเขาเชื่อมั่นและเข้าลงทุนในแอปเปิ้ล แต่บริษัทกลับพลิกท่าทีในวันที่ 2 ม.ค. 2562 ด้วยการออกแถลงการณ์ว่า บริษัทอาจปรับลดรายได้รายไตรมาสลงสูงสุดถึง 9,000 ล้านดอลลาร์ จากผลพวงของความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน
แถลงการณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่แอปเปิ้ลลดคาดการณ์รายได้ลง นับตั้งแต่มีการเปิดตัวไอโฟนครั้งแรกในปี 2550 ซึ่งฉุดให้หุ้นของแอปเปิ้ลดิ่งลงถึง 10% มูลค่าตลาดหายวับถึง 7.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในขณะนั้น
นักลงทุนยังพบว่าแอปเปิ้ลได้แจ้งกับซัพพลายเออร์หลายรายให้จำกัดการผลิต เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เพิ่งย้ำความเชื่อมั่นกับนักลงทุนด้วย
ที่สุดแล้ว แอปเปิลได้ยื่นเรื่องต่อศาลแขวงในโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 15 มี.ค. โดยขอจ่ายเงิน 490 ล้านดอลลาร์ (เกือบ 1.8 หมื่นล้านบาท) เพื่อยอมความในกรณีดังกล่าว แต่ไม่ใช่การยอมรับผิด และย้ำว่าไม่ใช่การหลอกลวงนักลงทุน
ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนจะได้รับเงินก้อนดังกล่าวหลังหักค่าทนายประมาณ 25% (ราว 122 ล้านดอลลาร์) แล้ว ซึ่งจะมีการกระจายให้กับนักลงทุนที่ซื้อหุ้นแอปเปิ้ลในช่วง 2 เดือนดังกล่าวและร่วมเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในครั้งนี้