‘สหรัฐ’เร่งเครื่องสงครามชิป ต้อนรับ TSMC-ซัมซุง ดีที่สุดต้อง ‘เมดอินอเมริกา‘

‘สหรัฐ’เร่งเครื่องสงครามชิป ต้อนรับ TSMC-ซัมซุง ดีที่สุดต้อง ‘เมดอินอเมริกา‘

’สหรัฐ’เร่งเครื่องสงครามชิป! อ้าแขนรับ TSMC และ ซัมซุง ให้เงินอุดหนุนรวมกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ตั้งโรงงานผลิตชิป 2 นาโนเมตร ย้ำชิปล้ำหน้าต้อง ‘เมดอินอเมริกา’ เท่านั้น

สหรัฐ“เร่งเครื่องสงครามชิปเต็มสูบ ถือเป็นการประกาศครั้งที่ 5 ของการอ้าแขนรับบริษัทชิปและผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ ภายใต้กฎหมายว่าด้วยชิปและวิทยาศาสตร์ (Chips and Science Act) ที่มุ่งส่งเสริมการผลิตชิปภายในประเทศ โดยประกาศแผนทุ่มเงินอุดหนุนบริษัทไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค (TSMC) และซัมซุง (Samsung) ของเกาหลีใต้ เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปล้ำหน้า“ที่สุดในโลก”

โดย TSMC ตกลงที่จะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ เป็น 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากได้รับเงินอุดหนุน 6.6 พันล้านดอลลาร์ เพื่อผลิตชิป 2 นาโนเมตร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก ภายในสหรัฐ

รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ จินา ไรมอนโด กล่าวว่า TSMC จะสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งที่สามในฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ซึ่งยังไม่เคยมีการประกาศมาก่อน โดยโรงงานแห่งนี้จะเริ่มดำเนินการได้ภายในปลายทศวรรษนี้

"เป็นครั้งแรกที่เราจะผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกในระดับการผลิตจำนวนมาก ภายในสหรัฐอเมริกา"  โดยชิปเหล่านี้จะ "เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับความต้องการปัญญาประดิษฐ์ทั้งหมด"

 

นอกเหนือจากเงินอุดหนุน 6.6 พันล้านดอลลาร์แล้ว TSMC ยังจะได้รับเงินกู้ยืมอีก 5 พันล้านดอลลาร์และสามารถขอเครดิตภาษีการลงทุนได้สูงสุด 25% ของค่าใช้จ่ายในการลงทุน

รวมทั้ง TSMC ยังดึงบริษัทซัพพลายเออร์อีก 14 แห่ง โดยวางแผนที่จะก่อสร้างหรือขยายโรงงานในรัฐแอริโซนาหรือพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนโรงงานผลิตชิปของ TSMC โดยกว่า 70% ของลูกค้า TSMC เป็นบริษัทสหรัฐฯ และต้องการซื้อชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ อย่างชัดเจน

ปัจจุบัน TSMC เป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ให้บริการแก่บริษัทพัฒนาชิปชั้นนำระดับโลก รวมถึง Apple, Nvidia, Qualcomm และ Amazon

โรงงานแห่งแรกของ TSMC ในรัฐแอริโซนา จะผลิตชิปขนาด 4 นาโนเมตร และมีกำหนดเริ่มการผลิตในปี 2568 ซึ่งโรงงานแห่งที่สองที่เดิมทีตั้งใจจะผลิตชิปขนาด 3 นาโนเมตร จะเปลี่ยนไปผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตรแทน  โดยโรงงานแห่งนี้มีกำหนดเริ่มการผลิตภายในปี 2571

ปัจจุบัน เฉพาะ TSMC, Intel และ Samsung เท่านั้นที่มีความสามารถในการผลักดันขีดจำกัดของการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ โดยทั้งสามบริษัทต่างกำลังแข่งขันกันผลิตชิปขนาด 2 นาโนเมตร

อ้าแขนรับ"ซัมซุง"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน อ้างอิงจากแหล่งข่าววงใน ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมมอบเงินอุดหนุนสูงถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์ ให้กับบริษัทซัมซุงผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ เพื่อสนับสนุนการขยายโรงงานผลิตชิปในรัฐเท็กซัส

โดย ไรมอนโดเผยว่าเงินทุนดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างโรงงาน 4 แห่งในเทย์เลอร์ รวมถึงโรงงานผลิตชิปมูลค่า 17 พันล้านดอลลาร์ที่ซัมซุงเคยประกาศในปี 2564 โดยเงินอุดหนุนนี้จะมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สามที่สูงที่สุดของโครงการ รองลงมาจากบริษัท TSMC

อย่างไรก็ตาม ความพยายามในการสร้างโรงงานผลิตชิปขั้นสูงแห่งแรกในสหรัฐฯ ของ TSMC ไม่ราบรื่นนักเนื่องจากปัญหาต่างๆ เช่น การขาดแคลนแรงงาน และความล่าช้าในการขออนุญาต ทำให้บริษัทฯ ต้องเลื่อนการเริ่มต้นการผลิตที่โรงงานแห่งแรกในรัฐแอริโซนาออกไปประมาณหนึ่งปี

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ มองว่า การใช้เงินภาษีของประชาชนไปกับการให้ทุนอุดหนุน TSMC มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ ยิ่งไปกว่านั้น คือ ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และบุคลากรที่มีประสบการณ์ของ TSMC

สหรัฐเล็งลงทุนอีกหลายโครงการ

ไรมอนโด ใบ้ถึงการมอบเงินอุดหนุนเพิ่มเติมว่า "นี่เป็นการประกาศโครงการ CHIPS ครั้งที่ห้า ซึ่งตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ดังนั้นจะมีอีกหลายโครงการตามมาในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ทำให้ยักษ์ใหญ่วงการชิปของเกาหลีใต้ ทั้ง Samsung และ SK Hynix ก็ได้ประกาศการลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ เช่นกัน และคาดหวังที่จะได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล

โดยพระราชบัญญัติชิปส์มีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพาจีนและไต้หวัน เนื่องจากสัดส่วนกำลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกในสหรัฐฯ ลดลงจาก 37% ในปี 2533 เหลือ 12% ในปี 2563 ตามข้อมูลของสมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

อ้างอิง reuters Nikkei