ฮังการี: สู่การเป็นฮับแห่งยานยนต์ไฟฟ้าในยุโรป | World Wide View
นโยบายการส่งเสริมด้านการลงทุน หนุนให้นักลงทุนต่างชาติจากหลายประเทศหันมาลงทุนใน "ฮังการี" มากขึ้น โดยเฉพาะ "อุตสาหกรรมแบตเตอรี่" ความสำเร็จนี้ ถือเป็นโอกาสที่ประเทศไทยจะได้ร่วมมือกับฮังการี เพื่อพัฒนา "อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า" ต่อไป
เมื่อกล่าวถึงประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หลายคนอาจจะนึกถึงจีน สหรัฐ หรือเยอรมนี เนื่องจากในปัจจุบันมียี่ห้อยานยนต์ไฟฟ้าที่ติดตลาดและวิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วประเทศไทย อย่างไรก็ดี ยังมีอีกหนึ่งประเทศแม้ว่าจะไม่ได้มียี่ห้อยานยนต์ไฟฟ้าเป็นของตัวเอง ก็มีศักยภาพด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่โดดเด่น นั่นก็คือฮังการี
เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายเปเตอร์ ซิยาร์โท (Péter Szijjártó) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าฮังการีได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ และได้พบหารือทวิภาคีกับนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้หารือกันหลายประเด็น และยังได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า ปัจจุบันฮังการีเป็นผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอันดับต้น ๆ ของยุโรปและของโลก เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีโรงงานซึ่งเป็นการลงทุนใหม่จะทยอยเริ่มเปิดตัวไปจนถึงปลายปี 2568 และแม้กระทั่งรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อดังของจีนเช่น BYD ก็มาซื้อที่ดินขนาดใหญ่ในฮังการีเพื่อสร้างโรงงานผลิตรถ EV เป็นโรงงานแรกของบริษัทฯ
ความสำเร็จของฮังการีในการพัฒนาประเทศไปสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้านั้น มาจากความเข้มแข็งของการเป็นฐานอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปในภูมิภาคยุโรปของฮังการีมาก่อนแล้ว ทำให้แรงงานมีความชำนาญด้านการผลิตรถยนต์ และมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีรองรับ โดยมีบริษัทผู้ผลิตยานยนต์หลากหลาย ทั้งจากเยอรมนี ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และอื่น ๆ เป็นผู้เล่นสำคัญ นอกจากนี้ ฮังการียังมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนทั้งในด้านการเงิน ภาษี และการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ รวมทั้งมีนโยบายทางการเมืองที่เปิดกว้างรับการลงทุนและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ดึงดูดการลงทุนจากนานาประเทศจากทั้งตะวันตกและตะวันออกมายังฮังการีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมแบตเตอรี ซึ่งช่วยส่งเสริมให้บริษัทที่ผลิตยานยนต์สันดาปในฮังการีในขณะนี้ตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเอง อีกทั้งยังสามารถดึงดูดการลงทุนจากบริษัทผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ ๆ ให้เข้ามาตั้งโรงงานในฮังการีได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย
ความสำเร็จของฮังการีในเรื่องนี้เป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยในสองด้าน ด้านแรกคือโอกาสในการเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมในระบบนิเวศน์ยานยนต์ไฟฟ้าในฮังการี หรือการลงทุนในธุรกิจบริการเพื่อตอบสนองอุปสงค์ของชาวฮังการีและชาวต่างชาติที่เข้าไปทำงานในฮังการี ซึ่งเริ่มมีกำลังซื้อมากขึ้น อาทิ ร้านอาหาร โรงแรม และอีกด้านหนึ่งคือโอกาสในการเรียนรู้จากประสบการณ์ของฮังการี และการนำนโยบายส่งเสริมการลงทุนของฮังการีมาปรับใช้เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งทั้งไทยและฮังการีต่างก็มีฐานห่วงโซ่อุปทานในการผลิตยานยนต์สันดาปที่เข้มแข็ง และพร้อมที่ยกระดับสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาค โดยฮังการีเป็นมิตรประเทศที่พร้อมสนับสนุนประเทศไทยมาโดยตลอดและแสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ ความร่วมมือด้าน EV จึงจะเป็นอีกโอกาสหนึ่งที่ทำให้ไทยและฮังการีจับมือกันได้กระชับมากยิ่งขึ้น