สถานทูตออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ร่วมจัดงานรำลึกวันแอนแซค 25 เม.ย.
สถานทูตเอกอัครราชทูตออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานวันแอนแซค ณ ช่องเขาขาด หรือที่รู้จักกันในชื่อ ทางรถไฟสายมรณะ จ.กาญจนบุรี เพื่อยกย่องวีรกรรมของทหารผู้ล่วงลับและระลึกถึงคุณความดีของทหารที่รับใช้ชาติในสงคราม ความขัดแย้ง และปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพทั้งหลาย
ในวันที่ 25 เมษายน ของทุก ๆ ปี ชาวออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ร่วมรำลึกวันอนุสรณ์ทหารผ่านศึกออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ หรือวันแอนแซค ซึ่งเป็นวันที่เหล่าทหารออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (Australian and New Zealand Army Corps: ANZAC) ได้ยกพลขึ้นบก ณ ชายฝั่งคาบสมุทรแกลลิโปลีในปีพ.ศ. 2458 และเป็นวันแห่งการรำลึกถึงความกล้าหาญ ความอดทน และมิตรภาพที่มีมายาวนานจนถึงปัจจุบัน
งานวันแอนแซคในปีนี้ พลเรือตรี จัสติน โจนส์ รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการร่วมกองทัพออสเตรเลีย ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย นายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย ตัวแทนจากกองทัพไทย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ และผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ในประเทศไทยเข้าร่วมงาน พร้อมกับประชาชนหลายร้อยคนรวมถึงครอบครัวผู้สูญเสียได้เดินทางมาร่วมงานด้วย
พลเรือตรี จัสติน โจนส์ กล่าวว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมงานรำลึกวันแอนแซคที่ช่องเขาขาด จังหวัดกาณจนบุรี ช่องเขาขาดเป็นอนุสรณ์สถานตั้งอยู่ในทางรถไฟสายมรณะ ที่ ๆ ซึ่งมีเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรราว 12,800 คน และแรงงานชาวเอเชียราว 90,000 คนได้สูญเสียชีวิตไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง “กระผมขอยกย่องความพยายามของกองกำลังออสเตรเลียที่กำลังปฏิบัติภาระกิจและเป็นกองกำลังหนุนในภาระกิจต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมเสถียรภาพในภูมิภาคของเรา”
ดร.แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย กล่าวในพิธี
“วันนี้พวกเรายกย่องท่านทั้งหลายที่ได้รับใช้ออสเตรเลีย และยังคงเดินหน้ารับใช้ชาติของเราต่อไป ชาวออสเตรเลียกว่า 103,000 คนจากหลากหลายช่วงอายุได้สละชีวิตเพื่ออิสรภาพและสันติภาพของเรา เราจะจดจำพวกเขาไม่ลืมเลือน"เช่นเดียวกับนายโจนาธาน คิงส์ เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย
“ในวันแห่งการไตร่ตรองนี้ ชาวนิวซีแลนด์ทั้งในและต่างประเทศต่างมุ่งความสนใจไปยังคนรุ่นต่างๆ ซึ่งเป็นผู้เสียสละมากมายเพื่อแสวงหาสันติภาพ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน วันนี้เรายกย่องความซื่อสัตย์ ความมั่นคง และความกล้าหาญของพวกเขา”
“‘Ka maumahara tonu tātou ki a rātou.’ — เราจะจดจำพวกเขา” ทูตนิวซีแลนด์กล่าว