‘Samsung’ กำไรพุ่ง 933% เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่า โต 10 เท่ารับผลจากกระแส AI บูม
ท่ามกลาง AI บูม “Samsung” ทำกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณชิป HBM ในปี 2567 มากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เพื่อคว้าโอกาสจากการเติบโตของตลาด AI
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างความเห็นบริษัท “ซัมซุง อิเลคทรอนิกส์” (Samsung Electronics) ที่คาดการณ์ว่า ความต้องการชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะยังคงแข็งแกร่ง ส่งผลให้อุปทานชิปประสิทธิภาพสูงบางรุ่นตึงตัว ขณะนี้บริษัทกำลังร่วมกับคู่แข่ง เพื่อคว้าโอกาสจากการฟื้นตัวของตลาดชิปหน่วยความจำทั่วโลก
ด้วยภาพอนาคตอันน่าสดใสของบริษัทผลิตชิปหน่วยความจำรายใหญ่ที่สุดของโลกนี้ ได้ส่งผลให้หุ้นของ Samsung ปรับตัวขึ้น 1.8% ในวันอังคาร (30 เม.ย.) หลังจากที่บริษัทรายงานกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรก “เพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่า”
อย่างไรก็ตาม ถ้าดูเป็นรายปี ราคาหุ้นของ Samsung ในปีนี้ยังคงลดลง 0.8% ซึ่งตามหลังคู่แข่งอย่าง SK Hynix ที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 24% สาเหตุเป็นเพราะ Samsung กำลังพยายามไล่ตาม SK Hynix ในการผลิตชิปประสิทธิภาพสูง เช่น ชิปหน่วยความจำแบนด์วิธสูง (HBM) เพื่อส่งให้กับ Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI)
แจจุน คิม รองประธานฝ่ายบริหารแผนกหน่วยความจำของ Samsung กล่าวในที่ประชุมว่า “บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มปริมาณชิปที่เกี่ยวข้องกับ HBM ในปี 2567 มากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว"
Samsung ยังประกาศว่า บริษัทได้เริ่มผลิตชิป HBM รุ่นล่าสุดสำหรับใช้ในชิปเซ็ตปัญญาประดิษฐ์แบบ Generative AI ซึ่งเรียกว่า 8-layer HBM3E ในเดือนนี้แล้ว เพื่อมุ่งหวังคว้าโอกาสจากการเติบโตของตลาด AI ซึ่งส่งผลดีต่อ SK Hynix ผู้ขายชิป HBM3 รายเดียวให้กับ Nvidia
สำหรับ Samsung มีรายได้ในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 13% เป็น 71.9 ล้านล้านวอน (52,140 ล้านดอลลาร์) รวมถึงมีรายได้จากชิปหน่วยความจำเพิ่มขึ้น 96% เป็น 17.49 ล้านล้านวอน เนื่องจากราคาชิปได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากจากการเฟื่องฟูของปัญญาประดิษฐ์
ส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัท เพิ่มขึ้นเป็น 6.6 ล้านล้านวอนในช่วงเดือน ม.ค.- มี.ค. 2567 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 6.4 แสนล้านวอนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นกำไรจากการดำเนินงานที่สูงที่สุดของบริษัทตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565
ขณะธุรกิจผลิตชิป ซึ่งเคยเป็นธุรกิจทำเงินหลักของ Samsung และคิดเป็นสัดส่วนกำไรจากการดำเนินงานกว่าสองในสามในอดีตนั้น ได้กลับมาทำกำไรอีกครั้งที่ 1.91 ล้านล้านวอนในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งดีขึ้นจากการขาดทุน 4.58 ล้านล้านวอนในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับเป็นการกลับมามีกำไรอีกครั้งนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2565
อ้างอิง: reuters