ชิป ‘Huawei’ ยัง ‘ตามหลัง’ สหรัฐอยู่หลายปี รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐเผย
สหรัฐชี้ ชิปจากจีนยังคง "ล้าหลังกว่า" สหรัฐหลายปี ซึ่งเป็นความสำเร็จจากการที่ปธน.ไบเดนปิดกั้นจีนด้านเทคโนโลยีขั้นสูงได้สำเร็จ พร้อมเผยว่า การคว่ำบาตรรัสเซีย ได้ทำให้รัสเซียต้องนำชิปจากตู้เย็น และเครื่องล้างจาน มาใช้ในอุปกรณ์ทางทหารแทน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนา ไรมอนโด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ แสดงความเห็นว่า จากสมาร์ทโฟนล่าสุดของ “หัวเว่ย” (Huawei) สะท้อนว่า เทคโนโลยีชิปของจีนยังตามหลังสหรัฐอยู่ “หลายปี”
ในการให้สัมภาษณ์ “รายการ 60 Minutes” ของสำนักข่าว CBS News ไรมอนโดแสดงความเห็นเกี่ยวกับชิป Huawei ในเชิงลดทอนความสำคัญลง และกล่าวว่า ช่องว่างความก้าวหน้าระหว่างชิปของจีนกับสหรัฐ ถือเป็น “ความสำเร็จ” จากรัฐบาลไบเดนที่ได้ควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีดังกล่าวไปยังจีน
ก่อนหน้านั้น ในช่วงที่ไรมอนโดอยู่ระหว่างการเยือนจีนเมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว บริษัท Huawei ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองเซินเจิ้น ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ด้วยเทคโนโลยีชิป 7 นาโนเมตรอันล้ำสมัย โดยบริษัทพัฒนาขึ้นเอง เทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่สหรัฐเคยหวังว่าจะสามารถหยุดยั้งความก้าวหน้าของจีนได้
อย่างไรก็ตาม บทสัมภาษณ์ที่ออกอากาศในวันอาทิตย์ของไรมอนโดมองว่า “เทคโนโลยีของจีนล้าหลังกว่าสหรัฐอยู่หลายปี เรามีเซมิคอนดักเตอร์อันซับซ้อนที่สุดในโลก แต่จีนไม่มี ดังนั้นจีนยังคงไม่มีนวัตกรรมที่เหนือเรา”
ยิ่งไปกว่านั้น รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ผู้นี้ได้ประกาศว่า จะดำเนินวิธีการ “ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะทำได้” เพื่อปกป้องความมั่นคงแห่งชาติของประเทศ
ส่วน อลัน เอสเตเบซ ปลัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐด้านอุตสาหกรรมและความมั่นคง กล่าวว่า บริษัท Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) ซึ่งเป็นหุ้นส่วนด้านการผลิตชิปของหัวเว่ยนั้น อาจละเมิดกฎหมายของสหรัฐ ดังนั้น รัฐบาลไบเดนกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำกับบริษัทจีนเหล่านี้
นอกจากนี้ หลังจากรัสเซียบุกยูเครน สงครามแย่งชิงชิปทั่วโลกก็ทวีความรุนแรงขึ้น โดยสหรัฐ และพันธมิตรได้เพิ่มการควบคุมการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไปยังกรุงมอสโกของรัสเซีย รัฐมนตรีไรมอนโดกล่าวว่า มาตรการควบคุมดังกล่าวมีประสิทธิผล โดยอ้างถึงรายงานที่ว่า ทหารรัสเซียได้นำเซมิคอนดักเตอร์ออกจากตู้เย็น และเครื่องล้างจาน เพื่อใช้ในอุปกรณ์ทางทหารแทน
หลังจากที่ได้รับความร่วมมือจากเนเธอร์แลนด์และญี่ปุ่นในการจำกัดจีนไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐได้ออกกฎที่เข้มงวดยิ่งกว่าเดิมในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยกำลังกดดันให้ทั้งสองประเทศนี้ รวมถึงเกาหลีใต้และเยอรมนี ช่วยจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศของจีนให้เข้มงวดขึ้นไปอีก
อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ยังรับผิดชอบในการแจกจ่ายเงินอุดหนุนและสินเชื่อมูลค่ากว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ ขณะเดียวกันก็ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อยับยั้งความทะเยอทะยานในการผลิตชิปและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของจีน
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ไรมอนโดได้ทยอยประกาศมอบเงินรางวัลมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ให้กับเหล่าบริษัทชิปอย่าง Intel, Taiwan Semiconductor Manufacturing Corp (TSMC) และ Samsung Electronics เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปในประเทศตามกฎหมาย CHIPS and Science Act of 2022 และกำลังจะมอบทุนสนับสนุนให้บริษัท Micron Technology อีกในสัปดาห์นี้
- งบประมาณสนับสนุนเหล่าบริษัทชิปเอกชนในสหรัฐ โดย Intel ได้รับงบฯมากที่สุด (ภาพ: บลูมเบิร์ก) -
นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เข้ารับตำแหน่ง เงินทุนจากรัฐบาลกลางที่กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จากภาคเอกชนสูงถึง 200,000 ล้านดอลลาร์แล้ว และมีบริษัทกว่า 600 แห่งแสดงความสนใจในเงินทุนสนับสนุนนี้ ซึ่งทางรัฐบาลได้จัดสรรไปแล้วเกือบ 85%
อ้างอิง: bloomberg