ตรวจงาน “สี จิ้นผิง” ทัวร์ 3 ชาติยุโรป ‘จีน’ ได้-เสีย อะไรบ้าง?

ตรวจงาน “สี จิ้นผิง” ทัวร์ 3 ชาติยุโรป ‘จีน’ ได้-เสีย อะไรบ้าง?

บลูมเบิร์กวิเคราะห์ ทริปเยือนยุโรปของสี จิ้นผิง เน้นกระชับสัมพันธ์ชาติยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะฮังการีและเซอร์เบีย แม้หลีกเลี่ยงพูดถึงสงครามเย็น แต่การทูตครั้งนี้ดูเหมือนจะฟื้นสงครามเย็นระหว่างยุโรปตะวันตกและยุโรปตะวันออกอีกครั้ง

จากทริปเยือนยุโรปของ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่กี่วันที่ผ่านมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กมองว่า การเยือนฝรั่งเศส 2 วัน ของสี เพื่อพบปะกับ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่ง ฝรั่งเศส ดูไม่มีอะไรพิเศษมากไปกว่าการได้ถ่ายภาพร่วมกันและรับประทานอาหารท้องถิ่น แต่การที่สีไปเยือนยุโรปฝั่งตะวันออก พิสูจน์ให้เห็นว่า เกิดประสิทธิผลมากกว่า เพราะปธน.สีได้เซอร์เบียเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนวิสัยทัศน์ในด้านระเบียบโลก และจีนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดมากขึ้นระหว่างฮังการีและสหภาพยุโรป (อียู) 

แม้สีหลีกเลี่ยงพูดถึง “สงครามเย็นรอบใหม่” แต่ดูเหมือนว่าการทูตของเขากลับฟื้นสงครามเย็นระหว่างยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตกขึ้นมา ซึ่งดูได้จากผลงานในทริปเยือนยุโรปของปธน.สี จิ้นผิงครั้งนี้

โน้มน้าวได้แต่ “ไม่เปลี่ยนจุดยืน”

แม้ปธน.มาครงสามารถโนมน้าวผู้นำจีนให้ใช้อำนาจของตนผลักดัน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่ง รัสเซีย ยุติสงครามในยูเครน แต่จุดยืนของสียังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

“จีนเข้าใจถึงผลสะท้อนกลับของวิกฤติยูเครนต่อผู้คนในยุโรป” สีเผยผ่านบทความพิเศษของหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศส Le Figaro ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเห็นอกเห็นใจของสีมากที่สุดแล้ว นับตั้งแต่เกิดสงคราม

อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เข้าร่วมประชุมไตรภาคีร่วมกับสีและมาครง ณ กรุงปารีส ได้ย้ำว่า ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นต่อยูเครนและยุโรปจาก สงครามรัสเซีย-ยูเครน นั้น ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของอียูและจีนด้วย 

ต่อมาสีก็ตอบโต้แรงกดดันเกี่ยวกับสงครามยูเครนจากอียู โดยกล่าวเตือนว่า จีนคัดค้านการใช้ความขัดแย้งเป็นเครื่องมือวิพากษ์วิจารณ์ และหมิ่นประสามประเทศที่สาม (ซึ่งหมายถึง “จีน”)

บลูมเบิร์กระบุด้วยว่า หากสีหวังจะสร้างกำแพงกั้น(ความสัมพันธ์)ระหว่างอียูและสหรัฐ คงไม่สำเร็จมากนัก เพราะหลังฟอน แดร์ ไลเอิน ประชุมกับสี เธอบอกว่า อียูพร้อมใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีต่อต้านสิ่งที่เธอเรียกว่า แนวทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของจีน ที่เป็นข้อกังวลในสหรัฐเช่นกัน แต่สีปฏิเสธคำกล่าวอ้างทั้งหมดอย่างแข็งขัน

ฮังการีที่รัก?

ในทริปเยือน ฮังการี ปธน.สีได้ประกาศการลงทุนล็อตใหม่ และยกย่อง “วิกเตอร์ ออร์บาน” นายกรัฐมนตรีฮังการีว่าเป็นบุคคลต้นแบบของความสัมพันธ์ระหว่างจีน-อียู ในแบบที่ควรจะเป็น และสียังให้คำมั่นว่าจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยกระจายสินค้าจากโรงงานจีนทั่วถึงทั้งกลุ่มการค้าด้วย

ก่อนหน้านี้ “บีวายดี” ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของจีน ได้เลือกฮังการีเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งแรกในยุโรป ซึ่งฮังการีเองก็เป็นศูนย์กลางการผลิตแบตเตอรี่ ขณะเดียวกันรัฐบาลฮังการีที่ขาดแคลนเงินสด ก็กำลังจัดหาเงินลงทุน และแนวทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่อยู่พอดี

ตามข้อมูลของ “ปีเตอร์ ซิจจาร์โต” รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า ในบรรดาข้อตกลงต่าง ๆ ที่จีนและฮังการีลงนามนั้น รวมงบประมาณสำหรับการปรับปรุงเครือข่ายระบบรางเก่าแก่ของประเทศด้วย และเป็นงบฯเพื่อการก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างสนามบินบูดาเปสต์ และในตัวเมืองของเมืองหลวงที่ล่าช้ามานาน

นอกจากนี้ ฮังการีจะพยายามร่วมมือกับหัวเว่ยอย่างใกล้ชิด เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศสู่ดิจิทัล

เข้าหายุโรปตะวันออก (อีกครั้ง)

ในการเยือนฮังการี สีได้ยกย่องนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระของออร์บาน และขอให้บูดาเปสต์เป็นผู้นำด้านการสร้างความสัมพันธ์ในภูมิภาคยุโรปกับจีน ซึ่งนี่ไม่ใช่ความพยายามแบ่งแยกภูมิภาคครั้งแรกของจีน เพราะในปี 2555 รัฐบาลปักกิ่งเคยจัดตั้งกลไกเพื่อเสริมแกร่งความสัมพันธ์กับประเทศยุโรปตอนกลางและประเทศในยุโรปตะวันออก16 ประเทศมาแล้ว

แต่ความกระตือรือร้นในการดำเนินตามกรอบงานดังกล่าวค่อย ๆ ลดน้อยลง โดยหลายประเทศประสบปัญหาขาดดุลการค้ามากขึ้น ขณะที่จีนไม่สามารถลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ได้ตามที่ให้คำมั่นไว้

นอกจากนี้ ในการเยือนกรุงเบลกราด สีให้คำมั่นว่าจะ “ไม่มีวันลืม” เหตุระเบิดสถานทูตจีนจากการโจมตีที่ผิดพลาดของกองกำลังองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติดเหนือ (นาโต) ซึ่งเหตุการณ์นั้น ขีปนาวุธสหรัฐ 3 ลูกได้สังหารนักข่าวจีนไป 3 ราย ในปี 2542

ดึง “เซอร์เบีย” ร่วมท้าทาย “ระเบียบโลก”

อเล็กซานดาร์ วูซิส ประธานาธิบดีเซอร์เบีย ต้อนรับสีในกรุงเบลเกรดอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมด้วยเสียงเชียร์จากผู้คนที่ออกมาโบกธงต้อนรับมากมาย ซึ่งในประเทศจีนมองว่าภาพเหล่านั้นถือเป็น “ชัยชนะของสี” ในแง่ของภาพข่าวที่เสริมภาพลักษณ์เชิงบวกแก่ผู้นำจีน รวมถึงภาพที่สีดื่มไวน์และรับประทานอาหารในฝรั่งเศส ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเว่ยป๋อของจีน

ปธน.วูซิส ยังได้ประกาศว่า ไม่มีอะไรมาบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้ ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพอันไร้ขีดจำกัดระหว่างรัฐบาลมอสโกและรัฐบาลปักกิ่งเช่นกัน (ไม่แน่ว่าคำพูดนี้อาจเน้นย้ำถึงการสนับสนุนรัสเซียและบ่งชี้ถึงวาระของประเทศ)

นอกจากนี้ สียังให้เซอร์เบีย ลงนามเป็น “ชุมชนในการแบ่งปันอนาคตร่วมกัน” ซึ่งทำให้เซอร์เบียกลายเป็นประเทศในยุโรปแห่งแรกที่ร่วมมือกับจีนในการ “สร้างพันธมิตรท้าทายระเบียบโลก” ที่สหรัฐเป็นผู้นำ

สำหรับข้อตกลงการค้าเสรีกับเซอร์เบีย สีเผยว่าจะมีผลในวันที่ 1 ก.ค. นี้ และจีนจะขยายการนำเข้าสินค้าเกษตร และจะเพิ่มเที่ยวบินตรงมากขึ้น

ขณะที่ธนาคารกลางของทั้งสองประเทศเตรียมดำเนินเกี่ยวกับความตกลงหักบัญชี (clearing arrangement) ของเงินหยวน เพื่อช่วยเสริมความแกร่งให้ธุรกิจและการค้าระหว่างกัน และเซอร์เบียจะเก็บเงินสำรองต่างประเทศส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินหยวนด้วย

สิ่งที่น่าจับตาต่อไป

ในระหว่างทริปเยือนฝรั่งเศสของสี จีนและฝรั่งเศสได้ลงนาม “ข้อตกลงความร่วมมือทวิภาคี 18 ฉบับ” บ่งชี้ว่า มีแนวโน้มที่สีจะพักศึกตรวจสอบคอนยัคฝรั่งเศส ที่ทำไปเพื่อตอบโต้ฝรั่งเศสสนับสนุนอียูในการตรวจสอบการให้เงินอุดหนุนอีวีจีนเมื่อเดือน ต.ค. 2566 และอียูจะกำหนดเงินอุดหนุนอีวีชั่วคราวหลังจากตรวจสอบดังกล่าว 9 เดือน ดังนั้น ตัวเลขเงินอุดหนุนจะออกมาในเดือน ก.ค. นี้

นอกจากนี้ สียังกล่าวว่า จีนยินดี “เปิดรับ” สินค้าเกษตรและเครื่องสำอางจากฝรั่งเศส แต่หากยังมีข้อพิพาทเกี่ยวกับประเด็น “กำลังการผลิตที่มากเกินไปของจีน” ส่งผลให้เกิด “สงครามการค้า” นั้น สินค้าเหล่านั้นอาจตกเป็นเป้าตรวจสอบอย่างเข้มงวดของจีนรายต่อไป

ส่วนการเยือนกรุงปักกิ่งของปูตินที่กำลังจะถึงนี้ ก็เป็นที่น่าจับตาว่า "มาครงสามารถล็อบบี้ปธน.สี" ได้มากเพียงใด