Honda เลย์ออฟในจีน 1,700 คน รับยอดขายหดตัวแรง

Honda เลย์ออฟในจีน 1,700 คน รับยอดขายหดตัวแรง

‘ฮอนด้า’ตัดสินใจลดพนักงานกว่า 1,700 คน ลาออกโดย ‘สมัครใจ’ หลังค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเผชิญปัญหายอดขายหดตัวแรง ในสงครามอีวีดุ-หั่นราคาเดือด ถูก BYD เจ้าถิ่นเบียดส่วนแบ่งตลาดขึ้นที่ 1 คาดฮอนด้าเปิดตัวรถ EV รุ่นใหม่ในปี 2568

“ฮอนด้า มอเตอร์” กำลังปรับลดพนักงานประจำไลน์การผลิตแบบเต็มเวลาในประเทศจีน เนื่องจากยอดขายที่ทรุดตัว โดยมีพนักงานประมาณ 1,700 คน ยินยอมที่จะออกจากบริษัท ซึ่งคิดเป็น 14% ของพนักงานฝ่ายผลิตในบริษัทร่วมทุน

ทางบริษัท GAC Honda Automobile ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างฮอนด้ากับ GAC Group บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ของรัฐบาลจีน เริ่มต้นคัดเลือกพนักงานในเดือนนี้เพื่อออกจากบริษัทโดยสมัครใจ  นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะลดวันทำการของโรงงานในเดือนมิถุนายน

ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเผชิญยอดขายหดตัว

การเคลื่อนไหวนี้เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นกำลังรับมือกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงในจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด "รถยนต์ไฟฟ้าเพราะจุดแข็งของฮอนด้ายังคงเป็น"คุณภาพและความประหยัดน้ำมัน” ซึ่งไม่ได้เป็นแรงขับเคลื่อนยอดขายอีกต่อไป

ยอดขายรถยนต์ใหม่ในจีนเมื่อเดือนเมษายนร่วง นำโดยฮอนด้าที่มียอดขายลดลง 22.2% จากปีก่อน, โตโยต้า มอเตอร์ มียอดขายลดลง 27.3%  และนิสสันลดลง มอเตอร์ 10.4% 

ฮอนด้า คาดการณ์ยอดขายรถยนต์ในจีนประจำปีงบประมาณ 2567 ไว้ที่ 1.06 ล้านคัน ซึ่งลดลง 13% เมื่อเทียบกับยอดขายของปีที่แล้ว และลดลงประมาณ 40% เมื่อเทียบกับสถิติสูงสุดในปีงบประมาณ 2563 

ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขายที่ลดลงนี้มาจากการแข่งขันด้าน “ราคา” ที่รุนแรงในตลาดรถยนต์จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งจุดแข็งแบบเดิมๆ ของแบรนด์ญี่ปุ่นอย่างคุณภาพและความประหยัดน้ำมัน ไม่สามารถดึงดูดลูกค้าอีกต่อไป

BYD เจ้าถิ่นเบียดขึ้นที่ 1

สถานการณ์ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจีนตอนนี้ “บีวายดี”(BYD) เป็นบริษัทผู้ผลิต EV และรถยนต์พลังงานทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดของจีน ได้ทำการลดราคารถยนต์มากกว่า 10 รุ่นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้ผู้ผลิตรถยนต์จีนรายอื่นๆ ต่างก็ลงมาเล่นในสมรภูมิหั่นราคาตามไปด้วย รวมถึงเทสล่าเองก็ลดราคารถอีวีทั้ง 4 รุ่นที่จำหน่ายในจีนอีกด้วย

ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหา แต่ยอดขายของคู่แข่งจากจีนกลับพุ่งสูงขึ้น ตามข้อมูลของสมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีน (China Association of Automobile Manufacturers) ระหว่างเดือนมกราคมถึงเมษายน 2567 ส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์รถยนต์ญี่ปุ่นลดลงจาก 23.1% ในปี 2563 เหลือ 12.2% ในตอนนี้ ขณะเดียวกันส่วนแบ่งการตลาดของแบรนด์รถยนต์จีนกลับเพิ่มขึ้นจาก 38.4% เป็น 60.7%

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น กำลังเผชิญ “จุดเปลี่ยน” สำคัญ หลังจากที่พวกเขาเข้าร่วมทุนกับบริษัทจีนและเริ่มเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงปี 2000 ซึ่งผ่านมานานกว่าสองทศวรรษแล้ว

ในตอนนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ตัดสินใจยุติการผลิตรถยนต์ในจีนเมื่อปีที่แล้ว ด้านนิสสันกำลังพิจารณาที่จะลดกำลังการผลิตประจำปีในจีนลงประมาณ 30% ส่วนโตโยต้าได้กล่าวในการแถลงผลประกอบการเมื่อเดือนนี้ว่า ธุรกิจในจีนจะเป็นการทดสอบ "ความอดทน" สำหรับอีกหลายปีข้างหน้า

อย่างไรก็ตาม ฮอนด้าหวังที่จะกลับมาทำตลาดรถยนต์อีกครั้ง โดยเพิ่มรุ่นรถยนต์ EV และเพิ่มผลกำไรผ่านการลดต้นทุน โดยบริษัทฯ จะเปิดตัวรุ่นรถยนต์ในปี 2568 ที่มาพร้อมกับหน้าจอที่ผลิตร่วมกับ “หัวเว่ย เทคโนโลยี” ของจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉมกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ EV