วิเคราะห์อนาคต ‘อีวีจีน’ หลังเจอภาษี 100% ส่อดับฝันยุคสมัยรถจีนครองตลาดโลก 

วิเคราะห์อนาคต ‘อีวีจีน’ หลังเจอภาษี 100% ส่อดับฝันยุคสมัยรถจีนครองตลาดโลก 

จับทิศทางอนาคต ‘อีวีจีน’ เมื่อสหรัฐตั้งภาษี 100% อาจดับฝัน BYD และลีปมอเตอร์ที่ต้องการบุกตลาดโลก แม้ตอนนี้ค่ายรถจีนเป็นที่ 1 ส่วนแบ่งตลาดมากสุดโดยที่ไม่มีสหรัฐ หันซบตลาดเกิดใหม่ใน ‘ยุโรป-อาเซียน’

หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์  รายงานอ้างถึงมุมมองของนักวิเคราะห์ว่า การที่ “สหรัฐ”ประกาศมาตรการขึ้น “ภาษี” สกัดสินค้าจีนทะลัก ซึ่งรวมถึงรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ที่ผลิตในจีน อาจสกัดกั้นแผนบุกตลาดสหรัฐของค่ายรถยนต์ไฟฟ้าอย่างบีวายดี(BYD)ลีปมอเตอร์ (LEAPMOTOR)  และบริษัทอื่นๆ จากจีน

หลังจากที่ สหรัฐประกาศมาตรการทางภาษีรับมือกับสินค้าราคาถูกจากจีนที่ทะลักเข้ามาในประเทศ ซึ่งรวมถึง “ภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้าจากจีน” จากเดิม 27.5% เพิ่มขึ้นเป็น 102.5% ดังนั้นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าบางรายในจีนแผ่นดินใหญ่ อาจจะต้องชะลอแผนการขยายกิจการไปยังต่างประเทศ แม้ว่าตอนนี้จีนเป็นผู้ครองตลาดรถเบอร์  1 ของโลก โดยที่ไม่ได้พึ่งพาสหรัฐก็ตาม

แต่นักวิเคราะห์ มองว่าการที่จีนต้องการจะเป็นผู้เล่นหลักในเวทีโลก เพื่อเป็น “Tesla” และ “Toyota” เวอร์ชันจีนนั้น ยังต้องพึ่งพาตลาดรถยนต์สหรัฐที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลก 

อย่างไรก็ดี เดนิส เดอปูซ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัทที่ปรึกษา โรแลนด์ เบอร์เกอร์ กล่าวว่า มาตรการนี้ไม่ได้หยุดยั้งความทะเยอทะยานของผู้ผลิตรถยนต์จีนที่จะครองตลาดโลก แต่จะปรับ"กลยุทธ์”และเปลี่ยนรูปแบบการผลิตสอดคล้องกับให้ท้องถิ่นมากขึ้น พร้อมกับมองหารัฐบาลที่เปิดรับรถยนต์ไฟฟ้าจีน

ทำไมอีวีจีนต้องแคร์ ‘สหรัฐ’ ?

ในตอนนี้ จีนเป็นผู้นำเบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโลก จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วน และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดซึ่งคิดเป็น 60% ของยอดขายทั่วโลก แต่แทบไม่มีรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีนวางจำหน่ายในสหรัฐ

รายงานจาก UBS ในเดือนกันยายนปีก่อนคาดการณ์ว่า รถยนต์จีนจะครองส่วนแบ่งตลาดโลก 33% ภายในปี 2573 โดยผู้ผลิตรถยนต์จีนใฝ่ฝันที่จะก้าวไปสู่ตลาดโลกมานาน ภายใต้กลยุทธ์ “Made in China 2025” ของรัฐบาลจีน

เดวิด จาง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความร่วมมือระหว่างประเทศด้านดิจิทัลยานยนต์ ของ WDEF กล่าวว่า ตลาดสหรัฐมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลก ซึ่งผู้ประกอบรถยนต์ไฟฟ้าจีนจะเจอกับอุปสรรคใหญ่ในแง่ของการสร้างการรับรู้แบรนด์ (brand awareness) ไปทั่วโลก หากปราศจากยอดขายที่แข็งแกร่งในสหรัฐ

จินจู ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษา Shanghai Mingliang Auto Service กล่าว “ในระยะยาว อุปสรรคทางการค้าที่สหรัฐสร้างขึ้นจะส่งผลต่อความมั่นใจของผู้ผลิตรถยนต์จีนต่อกลยุทธ์การบุกตลาดโลก แม้ว่าสหรัฐอาจไม่ใช่ตลาดเป้าหมายหลักของพวกเขาก็ตาม”

หวั่นอียูขึ้นภาษีรถอีวีจีนตามสหรัฐ

ทั้งนี้การขึ้นภาษีของสหรัฐอาจเป็นแรงกดดันให้ “อียู” ต้องใช้มาตรการตอบโต้เช่นกัน แม้ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์จีนยังเสียภาษีในระดับปกติที่ 10% สำหรับการส่งออกไปยังตลาดเดียวในทวีปยุโรป

โดยผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า อียูต้องขึ้นภาษีรถอีวีจีนประมาณ 50% จึงจะได้ผล ซึ่งอียูกำลังอยู่ในระหว่างการสืบสวนการอุดหนุนรถไฟฟ้าของจีน ว่ามีการแข่งขันอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่ คาดว่าจะทราบผลภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2567

ขณะเดียวกันมีประเทศสมาชิกอียูบางราย เช่น สวีเดน และเยอรมนี ไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการกำแพงภาษี โดยให้เหตุผลว่า ไม่ใช่แนวทางที่ดีในการแก้ปัญหา และรถยนต์จากจีนจำนวนไม่น้อยผลิตโดยบริษัทตะวันตก อย่างไรก็ดีมาตรการตอบโต้ของทั้งสหรัฐและอียู ผู้บริโภคในทั้งสองภูมิภาคอาจต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น โดยเฉพาะรถอีวี

‘จีน’หันซบตลาดยุโรป-อาเซียน

อย่างไรก็ตาม สงครามการค้าครั้งนี้อาจไม่ได้เป็นอุปสรรคใหญ่ต่อผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของจีนที่มุ่งมั่นจะครองตลาดโลก เพราะค่ายรถอีวีจีนกำลังปรับตัวต่อความท้าทายในสหรัฐและมุ่งหน้าสู่ “ตลาดเกิดใหม่” เช่น ยุโรป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอเมริกาใต้ โดยบางบริษัทเน้นไปที่การจัดหาเทคโนโลยี EV แทนที่จะขายรถยนต์เอง

อีกกลยุทธ์หนึ่งคือ การเปิดโรงงานนอกประเทศจีนในตลาดที่เปิดรับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จีน เช่น  บีวายดีกำลังเปิดโรงงานใหม่ในบราซิล ฮังการี ไทย และอุซเบกิสถาน และกำลังพิจารณาสร้างโรงงานแห่งหนึ่งในเม็กซิโก

ด้าน Chery Automobile รวมทั้งผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีนรายอื่นๆ วางแผนที่จะสร้างรถยนต์ในสเปนร่วมกับ Ebro-EV Motors กลยุทธ์นี้จะช่วยให้พวกเขาหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรและเข้าถึงตลาดใหม่ 

รวมทั้งบริษัทจีนสามารถร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ที่ไม่ใช่ชาวจีนเพื่อขาย EV ในสหรัฐ ตัวอย่างเช่น Leapmotor กำลังร่วมมือกับ Stellantis เพื่อขาย EV ในยุโรปและตลาดอื่นๆ และ CATL กำลังเจรจาเพื่อขอใบอนุญาตเทคโนโลยีแบตเตอรี่ให้กับ Tesla และผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นในสหรัฐ

ขณะเดียวกัน  นักวิเคราะห์กล่าวว่าการกำหนดนโยบายของยุโรปมีมุมมองต่อมาตรการภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่แตกต่างจากสหรัฐ  พวกเขาต้องการชักจูงให้บริษัทจีนสร้างโรงงานในยุโรป แทนที่จะปิดกั้นรถยนต์แบรนด์จีนโดยสิ้นเชิง

ในระหว่างการเยือนยุโรปของผู้นำจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเดือนนี้ โดยรัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส บรูโน เลอ แมร์ กล่าวว่ายินดีต้อนรับอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนที่จะลงทุนในฝรั่งเศษ รวมถึงบีวายดีด้วย

‘เม็กซิโก-เวียดนาม’ เส้นทางเลี่ยงภาษีของจีน

สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า อัตราภาษีใหม่ที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้าสินค้าจากจีน  ทำให้ผู้ประกอบการอาจเปลี่ยนเส้นทางสินค้าผ่านประเทศอื่นแทน เช่น เม็กซิโกหรือเวียดนาม เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีที่สูงขึ้น 

เอสวาร์ ปราสาท ศาสตราจารย์ด้านนโยบายการค้าจากมหาวิทยาลัยคอร์แนลและอดีตผู้อำนวยการด้านจีนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ภาษีศุลการกรที่กำหนดขึ้นใหม่อาจช่วยลดการนำเข้าสินค้านำเข้าจากจีนลดลงได้ และเป็นไปได้ว่าสินค้าจำนวนมากจะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังประเทศที่ไม่มข้อจำกัดด้านภาษี

ดังนั้น เม็กซิโก และ เวียดนาม อาจนี้ได้ประโยชน์จากความตรึงเครียดของจีนและสหรัฐ เนื่องจากต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าและความใกล้ชิดกับสหรัฐ แต่ทว่าทั้ง 2 ประเทศเองก็ต้องพยายามไม่ให้สหรัฐขุ่นเคืองใจไปพร้อมกับดึงดูดการลงทุนในด้านการผลิตด้วย
แคเธอรีน ไท ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวว่ามีความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าของเม็กซิโกกับจีนและจะคอยจับตาสถานการณ์ในอนาคตที่มีความพยามในการหลีกเลี่ยงภาษี

“รูปแบบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลอย่างมากให้กับเรา ซึงทาง  USTR กำลังพิจารณาหาทางแก้ไข”

ในปัจจุบัน เม็กซิโกได้รับประโยชน์จากภาษีสหรัฐที่แทบจะเป็นศูนย์ ภายใต้ข้อตกลงการค้าสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา หรือ USMCA ในขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐก็กำลังพิจารณาให้สถานะ "ตลาดเศรษฐกิจ" แก่เวียดนาม ซึ่งจะส่งผลต่อต่อภาษีนำเข้า