ทองแพงไม่ไหว 'จีน' นำเข้าลดลง 30% แต่แบงก์ชาติยังซื้อตุนต่อเป็นเดือนที่ 18

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างข้อมูลล่าสุดจากกรมศุลกากรจีนในวันนี้ (21 พ.ค.67) ว่า การนำเข้าทองคำของจีน ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงถึง 30% อยู่ที่ 136 ตัน และเป็นการนำเข้าทองคำที่ต่ำที่สุดของปี 2567 โดยคาดว่าเป็นผลพวงจากราคาทองคำโลกที่พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง 

รายงานระบุว่า แม้ราคาทองคำโลกจะเคลื่อนไหวจากปัจจัย "อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ" เป็นหลัก แต่ปัจจัยเรื่องการบริโภค ทองคำจีน ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ก็ได้กลายมาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองเมื่อไม่นานมานี้ด้วย 

วิกฤติในภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาเศรษฐกิจ เงินหยวนอ่อนค่า และตลาดหุ้นจีนที่ผลประกอบการย่ำแย่มาหลายปี ส่งผลให้ชาวจีนมีตัวเลือกในการลงทุนน้อยลงเมื่อเทียบกับในหลายประเทศ ทำให้ชาวจีนแห่ลงทุนในทองคำกันเพิ่มมากขึ้น และเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ดันให้ราคาทองพุ่งทุบสถิติใหม่   

ในขณะที่ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ยังคงเดินหน้าทำสถิติเพิ่มปริมาณซื้อทองคำสำรองเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกันในเดือนเม.ย. แม้ว่าอัตราการซื้อจะชะลอตัวลงก็ตาม โดยลดลง 62.5% อยู่ที่ 60,000 ทรอยออนซ์ ซึ่งลดลงจาก 160,000 ออนซ์ในเดือนมี.ค. และลดลง 84.6% จากการซื้อ 390,000 ออนซ์ในเดือนก.พ.

โซนี กุมารี นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของบริษัท เอเอ็นซี กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า การนำเข้าทองคำของจีนที่ชะลอตัวลงในเดือนเม.ย. อาจเป็นจังหวะหยุดพักชั่วคราวของราคาทองคำขาขึ้น แต่ในภาพรวมคาดว่าความต้องการทองคำของจีนจะยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 2567 นี้ 
 
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนเป็นหนึ่งในผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในตลาดโลกมาอย่างยาวนาน โดยสะสมทองคำแท่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี  2565 อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นจนทำสถิติใหม่ตลอดกุมภาพันธ์ หลายครั้ง อาจทำให้ความต้องการซื้อทองคำของจีนลดลง

ขณะที่ สภาทองคำโลก (WGC) รายงานก่อนหน้านี้ว่าการซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกในไตรมาสแรกซึ่งนำโดยจีนนั้น แข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์ นักวิเคราะห์ตลาดบางคนชี้ว่า ราคาทองคำ ที่พุ่งขึ้น 12% ในปีนี้ ส่วนหนึ่งอาจมาจากแรงซื้อของธนาคารกลางเหล่านี้

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์