นายกฯ อังกฤษเสนอ ‘ลดภาษีเงินบำนาญ’ หวังดึงดูดฐานเสียงผู้สูงอายุ ก่อนเลือกตั้ง ก.ค.

นายกฯ อังกฤษเสนอ ‘ลดภาษีเงินบำนาญ’ หวังดึงดูดฐานเสียงผู้สูงอายุ ก่อนเลือกตั้ง ก.ค.

"ริชี ซูแน็ก" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เสนอลดภาษีให้แก่ผู้รับเงินบำนาญหลายล้านคน เพื่อดึงดูดฐานเสียงคนสูงวัย ก่อนถึงการเลือกตั้งในเดือนก.ค. ซึ่งผลสำรวจคาดว่าพรรคอนุรักษนิยมของซูแน็กอาจพ่ายแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้

ในการรณรงค์หาเสียงครั้งล่าสุดวานนี้ (27 พ.ค.67) "ริชี ซูแน็ก" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เสนอให้มีการปรับลดภาษีแก่ผู้รับเงินบำนาญหลายล้านคน สะท้อนให้เห็นว่านายกฯ อังกฤษให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้สูงอายุ ก่อนที่การเลือกตั้งในอังกฤษจะมีขึ้นในเดือนก.ค.นี้

พรรคอนุรักษนิยมของซูแน็ก ระบุว่า พรรคจะเสนอการให้เบี้ยเลี้ยงใหม่ โดยอิงตามอายุของผู้รับเงินบำนาญและปรับลดภาษีสำหรับผู้รับเงินบำนาญราว 100 ปอนด์ (ราว 4,700 บาท) สำหรับผู้รับเงินบำนาญแต่ละราย รวมจำนวน 8 ล้านรายในปี 2568 และจากนั้นการลดภาษีจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับเกือบ 300 ปอนด์ต่อปี ภายในสิ้นสุดวาระของรัฐสภาสมัยหน้า

“การดำเนินการเชิงรุกนี้แสดงให้เห็นว่าเรายืนเคียงข้างบรรดาผู้รับเงินบำนาญ ในอีกแง่หนึ่งพรรคแรงงานทำให้ประชาชนทุกคนที่ได้รับเงินบำนาญของรัฐเต็มจำนวน เป็นผู้เสียภาษีเงินได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์” ซูแน็ก กล่าว หลังจากสัปดาห์ก่อนได้สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศยุบสภา และเตรียมจัดการเลือกตั้งในวันที่ 4 ก.ค.67 นี้

พรรคอนุรักษนิยมระบุด้วยว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะมาพร้อมกับนโยบายที่เรียกว่าการล็อก 3 ชั้น (Triple Lock) ซึ่งหมายถึงการรับประกันว่าจะเพิ่มเงินสนับสนุนในกองทุนเงินบำนาญโดยอิงตามระดับของรายได้ และค่าเงินเฟ้อ หรือเพิ่มขึ้น 2.5% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด

ทั้งนี้ จำนวนผู้รับเงินบำนาญในอังกฤษเพิ่มขึ้น 140,000 ราย สู่ระดับ 12.6 ล้านรายในรอบปีสิ้นสุด ณ เดือนก.พ.2566 ส่วนจำนวนชาวอังกฤษที่มีสิทธิเลือกตั้งนั้นมีอยู่เกือบ 50 ล้านคน โดยผลสำรวจความเห็นครั้งล่าสุดคาดการณ์ว่า พรรคอนุรักษนิยมอาจจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นการสิ้นสุดการบริหารประเทศที่ดำเนินมานานถึง 14 ปี

ด้านพรรคแรงงานให้คำมั่นว่าจะขัดขวางนโยบายดังกล่าว ซึ่งนโยบายนี้รัฐบาลพรรคอนุรักษนิยมได้ริเริ่มขึ้นในปี 2554 เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับเงินบำนาญต้องเผชิญกับภาวะยากจน

อย่างไรก็ดี ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลให้เกิดการตรวจสอบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากเงินเฟ้อของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในการจ่ายเงินบำนาญเพิ่มขึ้นอีก 1.1 หมื่นล้านปอนด์ในปี 2566

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์