ทรัมป์เตือน! ติดคุกอาจเป็น‘จุดแตกหัก’สำหรับแฟนคลับ
โดนัลด์ ทรัมป์ ชี้ การส่งตนเข้าคุกอาจเป็น “จุดแตกหัก” สำหรับผู้สนับสนุน ถือเป็นคำเตือนที่ยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องความรุนแรงทางการเมืองในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พ.ย.
KEY
POINTS
- โดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์สื่อรู้ดีว่าอาจติดคุกหรือกักบริเวณจากความผิดอาญาครั้งประวัติศาสตร์ในคดีใช้เงินปิดปาก
- เตือนว่าหากตนเองติดคุก ประชาชนจะรับไม่ได้ แล้วกลายเป็นจุดแตกหัก
- ผู้เชี่ยวชาญมองว่า นี่คือคำขู่ หลังเกิดเหตุผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภามาแล้วเมื่อเขาแพ้เลือกตั้งโจ ไบเดน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐและตัวเก็งตัวแทนพรรครีพับลิกันรายนี้ ให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ ออกอากาศเมื่อวันอาทิตย์ (2 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ ทรัมป์รู้ดีว่าอาจติดคุกหรือกักบริเวณจากความผิดอาญาครั้งประวัติศาสตร์ในคดีใช้เงินปิดปาก
“ผมโอเคนะ แต่ไม่แน่ใจว่าประชาชนจะรับได้หรือเปล่า ผมคิดว่ามันคงยากพอดูที่ประชาชนจะเข้าใจ บางทีมันอาจเป็นจุดแตกหัก” ทรัมป์กล่าว
คำเตือนนี้จะก้องกังวานไปในประเทศที่มีความกังวลอยู่แล้ว เรื่องแนวโน้มความไม่สงบของประชาชนและการคุกคามทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งเดือน พ.ย.
เอเอฟพีรายงานว่า ตอนนี้ทรัมป์จะลงเลือกตั้งในฐานะอาชญากร และเขาจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหากพ่ายแพ้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ไม่กี่วันก่อน เมื่อวันพฤหัสบดี (30 พ.ค.) ลูกขุนนิวยอร์กพิพากษาให้ทรัมป์มีความผิดคดีอาญาทุกกระทงใน 34 กระทง ฐานรายงานบัญชีเท็จช่วงสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2559 เพื่อปกปิดเพศสัมพันธ์ฉาวกับดาราหนังวาบหวิว “สตอร์มี แดเนียลส์”
คำพิพากษาดังกล่าวทำให้ทรัมป์เป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่ต้องคดีอาญา ศาลจะกำหนดระวางโทษในวันที่ 11 ก.ค. ไม่กี่วันก่อนพรรครีพับลิกันจัดประชุมใหญ่เพื่อเสนอชื่อทรัมป์เป็นตัวแทนพรรคอย่างเป็นทางการลงชิงชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี
เอริก บุตรชายของทรัมป์ เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนที่ปกป้องบิดาวัย 77 ปีในรายการทอล์กโชว์ของฟ็อกซ์นิวส์ โดยตั้งข้อสังเกตถึงวันเวลากำหนดระวางโทษ
“พวกเขาทำให้โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้พลีชีพ” เอริกกล่าวกับฟ็อกซ์นิวส์
แม้แต่ละข้อหาจะมีโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เป็นไปได้น้อยมากที่ผู้พิพากษาจะตัดสินโทษจำคุก
ทั้งนี้ ทรัมป์ยังมีคดีอาญาอื่นๆ อีกสามคดี รวมถึงคดีพยายามพลิกผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ที่เขาพ่ายไบเดน
ผู้สนับสนุนทรัมป์บุกอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค.2564 หลังเขาแสดงสุนทรพจน์เกรี้ยวกราดปลุกฝูงชนให้ “สู้ราวกับนรก”
อดัม ชิฟฟ์ จากพรรคเดโมแครต หนึ่งในคณะกรรมการของสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่สอบสวนการโจมตีรัฐสภา กล่าวว่า กลยุทธ์ของทรัมป์ชัดเจน
“โดยพื้นฐานแล้วนี่คือคำขู่ของเขาว่า หากติดคุก เขาจะกระตุ้นผู้สนับสนุนให้ลุกฮือ และเราได้เห็นผลลัพธ์หายนะยิ่งของวันที่ 6 ม.ค.มาแล้ว” ชิฟกล่าวในรายการ “State of the Union” ทางสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น
สำหรับทรัมป์ เขาปฏิเสธมาตลอดเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับแดเนียลส์ที่อัยการเผยในศาลว่า เกิดขึ้นหลังจากเมลาเนียคลอดบุตรได้ไม่นาน
ในการให้สัมภาษณ์ฟ็อกซ์นิวส์ ทรัมป์กล่าวว่าคดีนี้ส่งผลต่อภรรยาของเขา ผู้ไม่มาศาลแตกต่างจากสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ
“เธอสบายดี แต่ผมคิดว่ามันยากมากสำหรับเธอ เธอต้องอ่านเรื่องไร้สาระพวกนี้ทั้งหมด” ทรัมป์กล่าว
เมลาเนีย ทรัมป์ แทบไม่เคยข้องเกี่ยวกับการหาเสียงในครั้งนี้ของสามีเลย ไม่เคยไปปรากฏตัวสักครั้ง และแทบไม่ออกงานกับเขา