เลือกตั้งอินเดีย กดดันตลาดหุ้นแย่สุดในรอบ 4 ปี นักวิเคราะห์มองพื้นฐานยังเป็นดาวรุ่ง

เลือกตั้งอินเดีย กดดันตลาดหุ้นแย่สุดในรอบ 4 ปี นักวิเคราะห์มองพื้นฐานยังเป็นดาวรุ่ง

เลือกตั้งอินเดียเกมพลิก! ฉุดตลาดหุ้นแย่สุดในรอบ 4 ปี  ดัชนี Nifty ร่วง 8% หลังพรรค BJP ของ โมดีส่อแววไม่ชนะขาด นักวิเคราะห์ยังมองบวกเชื่อพื้นฐานยังแกร่ง แต่หากไม่ชนะเสียงส่วนใหญ่ ตลาดอาจปรับฐานหนักกว่านี้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นอินเดียท่ามกลางการนับคะแนนเลือกตั้งทั่วไปในวันนี้ (4 มิ.ย.)  ดัชนี Nifty ร่วงลง 8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี หลังจากผลการนับคะแนนเสียงเบื้องต้นถึงเวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาในไทยบ่งชี้ว่า แนวร่วมพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (NDA) ซึ่งเป็นแนวร่วมรัฐบาลที่นำโดยนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี คาดว่าจะได้รับชัยชนะเป็นสมัยที่ 3 แต่ “อาจชนะไม่ขาด” หลังผลนับคะแนนโดยบลูมเบิร์กพบว่านำไปเพียง 271 ต่อ 220 เสียงเท่านั้น จากทั้งหมด 543 เสียงในสภา

แม้ว่าผลการเลือกตั้ง “เบื้องต้น” จะออกมาไม่เป็นไปตามคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่คาดกันว่า NDA จะได้เสียงส่วนใหญ่มากกว่า 300 เสียง ซึ่งอาจขัดขวางไม่ให้รัฐบาลดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศเชิงรุกได้โดยง่าย จนทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมานั้น อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเป็นปฎิกริยาโต้ตอบของตลาดในเชิงพื้นฐานเท่านั้น 

ทั้งนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นอินเดียรับรู้แนวโน้มผลการเลือกตั้งในช่วงเช้า จนทำให้ดัชนี  Nifty ร่วงลง 8% หลังจากนั้นตลาดทุนมีแรงซื้อกลับจนกลับมาทรงตัวในช่วงบ่ายของการซื้อขาย ดัชนี Nifty 50 ปิดตลาดลบไป 1,379 จุด หรือ 5.93% ปิดที่ 21,884.50 จุด ขณะที่ดัชนี Sensex ปิดลบ 4,390 จุด หรือ 5.74% ปิดที่ 72,079.05 จุด

กุราฟ ดูอา รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ตลาดทุนบริษัทแชร์คาน เปิดเผยกับอัลจาซีราห์ว่า แม้ผลการนับคะแนนเบื้องต้นจะไม่เป็นบวกต่อตลาด ทว่าตราบใดที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลสามารถคว้าเสียงส่วนใหญ่ 272 ที่นั่ง (2 ใน 3) เพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ ปฏิกิริยาเชิงลบในตลาดหุ้นก็จะเป็นเพียงแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น 

อูเมช กุมาร์ เมห์ตา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน กองทุนรวมของแซมโก้ สะท้อนมุมมองหลังจากการนับคะแนนเสียงดำเนินไปเกินครึ่งแล้วว่า สิ่งสำคัญคือ NDA จะได้กลับมาจัดตั้งรัฐบาลชุดต่อไปซึ่งแสดงถึงความต่อเนื่องทางนโยบาย ดังนั้นไม่ว่าจะชนะ 20 หรือ 120 ก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้วการชนะก็คือชัยชนะ ซึ่งตอกย้ำว่าโครงสร้างพื้นฐานของอินเดียยังเติบโตในเชิงบวก

ผลเลือกตั้งฉายแสงตลาดหุ้นอินเดียเป็นดาวรุ่ง

ขณะเดียวกัน ไมค์ เซลล์ หัวหน้าฝ่ายตลาดเกิดใหม่ของควอลิตี้ กล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาคของอินเดียยังดีกว่าตลาดหลักๆ อื่นๆ ซึ่งการปรับราคาอย่างรวดเร็วดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้

ตลาดหุ้นอินเดียเติบโตอย่างรวดเร็วจนมีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ด้วยการมีบัญชีซื้อขายมากกว่า 3 ล้านบัญชีทุกเดือนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงจำนวนนักลงทุนรายย่อยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในตลาดหุ้น รวมทั้งกองทุนรวมได้รับเงินมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนผ่านแผนการจัดสรรหุ้นระยะยาว แสดงให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน

อย่างไรก็ตาม มานิช ภควา ผู้จัดการกองทุนของกองทุนสเตรทส์ อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ ในสิงคโปร์ กล่าวกับรอยเตอร์สว่า นักลงทุนต่างชาติกำลังจับตามองผลการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด รัฐบาลที่มีเสถียรภาพจะกระตุ้นให้มีเงินลงทุนไหลเข้ามาในอินเดีย 

แต่ในทางกลับกัน หากโมดีไม่ชนะด้วยเสียงส่วนใหญ่ เราอาจเห็นตลาดหุ้นอินเดียพลิกกลับจากที่เป็นขาขึ้นก่อนหน้านี้ และคาดว่าค่าเงินรูปีก็จะอ่อนค่าลงต่อเนื่องเช่นกัน นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลให้บอนด์ยีลด์พุ่งและเกิดความผันผวนเมื่อตลาดประเมินการเมืองอินเดียใหม่อีกครั้ง

นักลงทุนคาดหวังว่ารัฐบาลโมดีจะยังคงมุ่งมั่นเปลี่ยนประเทศให้เป็นศูนย์กลางการผลิต ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้ดึงดูดบริษัทต่างชาติ รวมถึง Apple และ Tesla ให้เริ่มการผลิตในขณะที่พวกเขากระจายตัวออกนอกประเทศจีน