ญี่ปุ่นลุยซอฟต์พาวเวอร์ อัพเดตยุทธศาสตร์‘คูลเจแปน’ l World Pulse

ญี่ปุ่นลุยซอฟต์พาวเวอร์    อัพเดตยุทธศาสตร์‘คูลเจแปน’ l World Pulse

ญี่ปุ่น ถือเป็นต้นตำรับซอฟต์พาวเวอร์ สมัยก่อนความบันเทิงจากแดนซากุระไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือซีรีส์ เป็นที่หนึ่งในเอเชีย แม้ระยะหลังเสียแชมป์ให้เคป็อป แต่เรื่องมังงะและอนิเมะยังเจ๋งอยู่ กระนั้นต้องมีการปรับปรุงยุทธศาสตร์เช่นกัน

มหาอำนาจด้านวัฒนธรรมป็อป ประเทศต้นกำเนิดการ์ตูนมหากาพย์อย่าง “ดรากอนบอล” และเกมแฟรนไชส์อย่าง “ซูเปอร์มาริโอ” และ “ไฟนอลแฟนตาซี” ต้องการขยายตลาดวีดิโอเกม มังงะ และอนิเมะในต่างประเทศเพิ่มขึ้นสี่เท่ามาอยู่ที่ 1.3 แสนล้านดอลลาร์ภายในเวลาราวสิบปี

วานนี้ (5 มิ.ย.) รัฐบาลโตเกียวประชุมทบทวนยุทธศาสตร์ “คูลเจแปน” ตั้งเป้าเพิ่มการส่งออกสินค้าทางวัฒนธรรมเหล่านี้เป็น 20 ล้านล้านเยน (เกือบ 1.3 แสนล้านดอลลาร์) ภายในปี 2576 หลังจากในปี 2565 ภาคส่วนเกม อนิเมะ และมังงะ ทำเงินจากต่างแดนได้ถึง 4.7 ล้านล้านเยน (3 หมื่นล้านดอลลาร์) เกือบเท่ากับการส่งออกไมโครชิปที่ทำเงินเข้าประเทศ 5.7 ล้านล้านเยน

เอกสารยุทธศาสตร์ของรัฐบาลระบุ “ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คอนเทนท์อย่างอนิเมะและมังงะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดึงดูดผู้ชมหนุ่มสาวชาวต่างชาติมากขึ้นๆ ทำหน้าที่เป็น ‘ประตู’ สู่ญี่ปุ่น”

ยิ่งกระแสสตรีมมิงช่วงโควิด-19 ระบาดยิ่งหนุนให้อนิเมะหลายเรื่อง เช่น “ดาบพิฆาตอสูร” โด่งดังไปทั่วโลกทำรายได้ถล่มทลาย ประกอบกับปรากฏการณ์ “วีทูบเบอร์” หรือยูทูบเบอร์ที่ใช้ภาพตัวการ์ตูนมาแทนภาพของตนเอง ก็มีส่วนช่วยหนุนซอฟต์พาวเวอร์ญี่ปุ่นในระดับนานาชาติด้วย

การเติบโตของภาคส่วนเหล่านี้เมื่อรวมกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น แฟชั่น เครื่องสำอาง และการท่องเที่ยวขาเข้า คาดว่าจะสร้างเม็ดเงิน 50 ล้านล้านเยนภายในปี 2576

แต่ของดีมักมีอุปสรรค นั่นคือการละเมิดลิขสิทธิ์จากเว็บไซต์เถื่อนที่ลักลอบเผยแพร่อนิเมะและมังงะให้อ่านฟรีในหลายๆ ภาษา เช่น อังกฤษและเวียดนาม ยุทธศาสตร์คูลเจแปนฉบับอัปเดตจึงกำหนดแผนปราบปรามเว็บไซต์เถื่อนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกับการขยายตลาดซอฟต์พาวเวอร์โลก

และการที่เว็บไซต์ละเมิดลิขสิทธิ์มีการขายโฆษณา  รัฐบาลญี่ปุ่นเตือนว่า การลงโฆษณาในเว็บเหล่านี้รายได้อาจไปเข้ากระเป๋าเครือข่ายอาชญากรรม ยุทธศาสตร์คูลเจแปนยังเสนอด้วยว่า การแก้ไขวิกฤติละเมิดลิขสิทธิ์จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องร่วมมือกันดำเนินการอย่างรวดเร็ว 

นอกจากนี้ยุทธศาสตร์คูลเจแปนยังเพิ่มการส่งเสริมอาหารญี่ปุ่นและงานดิจิทัลให้ขจรขจายในต่างแดน เพิ่มการลงทุนในภาคบริการที่ใช้สินทรัพย์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรมญี่ปุ่นดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น

ว่ากันว่านายกรัฐมนตรีคิชิดะ ฟูมิโอะถึงกับสั่งการให้คณะรัฐมนตรีนำแผนการสู่การปฏิบัติให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ 

เห็นข่าวยุทธศาสตร์คูลเจแปนสะท้อนว่า ญี่ปุ่นซึ่งชัดเจนอยู่แล้วเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ยังต้องเอาจริงเอาจังมากขึ้นเพื่อใช้เป็นช่องทางสร้างรายได้ ประเทศไหนอยากเดินตามรอยเห็นทีต้องเร่งมือ