ฟิลิปปินส์ห้ามนำเข้าสัตว์ปีกจาก 'ออสเตรเลีย' หลังพบไข้หวัดนก H7 ระบาด

ฟิลิปปินส์ห้ามนำเข้าสัตว์ปีกจาก 'ออสเตรเลีย' หลังพบไข้หวัดนก H7 ระบาด

ฟิลิปปินส์ห้ามการนำเข้าสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์สัตว์ปีกจากออสเตรเลีย หลังจากพบโรคไข้หวัดนกในออสเตรเลียเมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้าน WHO คาดกรณีพบผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้อาจมาจากการเดินทางไปอินเดีย

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ได้ประกาศในวันนี้ (8 มิ.ย.) ห้ามการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากไก่และสัตว์ปีกจากประเทศออสเตรเลียแล้ว โดยให้มีผลทันที ภายหลังมีการพบโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์อันตรายทั้ง H7N3 และ H7N9 ในหลายรัฐของออสเตรเลีย

คำสั่งดังกล่าวครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์หลายประเภท อาทิ เนื้อสัตว์ปีก ลูกไก่ ไข่ และน้ำเชื้อ ขณะที่ข้อมูลจนถึงเดือนเม.ย.ปีนี้พบว่า ออสเตรเลียเป็นประเทศที่ฟิลิปปินส์นำเข้าเนื้อไก่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 4 และคิดเป็นสัดส่วน 4% ของการนำเข้าเนื้อไก่ทั้งหมด 

 

ทั้งนี้ ออสเตรเลียมีการพบไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีกแล้ว 5 แห่ง ในจำนวนนี้ 4 แห่งอยู่ใกล้กับเมลเบิร์นซึ่งพบเชื้อ H7N3 ส่วนอีกแห่งอยู่ในรัฐวิคทอเรีย ซึ่งพบเชื้อ H7N9 แต่ยังไม่พบการระบาดของสายพันธุ์ H5N1 ที่ระบาดไปทั่วโลกและมีการติดเชื้อไปถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ เช่น ในโคนมที่พบในประเทศสหรัฐ

ขณะที่ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แถลงว่ากรณีการพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ในคนเป็นครั้งแรกที่ออสเตรเลีย เมื่อเดือน มี.ค. นั้นคาดว่าจะเป็นการติดเชื้อมาจากประเทศ "อินเดีย" 

ผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นเด็กหญิงวัยเพียง 2 ขวบจากรัฐวิคทอเรีย ที่เดินทางพร้อมครอบครัวไปยังเมืองกัลกัตตา ในรัฐเวสต์เบงกอล อินเดีย เมื่อวันที่ 12-19 ก.พ. และเดินทางกลับมาอินเดียในวันที่ 1 มี.ค. ก่อนจะถูกส่งโรงพยาบาลในวันถัดมาและต้องรักษาตัวเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ 

ขณะที่ครอบครัวใกล้ชิดของเด็กคนนี้ทั้งในออสเตรเลียและอินเดียต่างไม่มีใครมีอาการป่วยหรือติดเชื้อ ครอบครัวยังยืนยันว่าไม่มีการสัมผัสกับสัตว์ปีกหรือคนที่มีอาการป่วยแต่อย่างใด ซึ่งโดยปกติแล้ว โรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ที่พบในคนมักจะมาจากการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ติดเชื้อเป็นหลัก