France-Thailand Business Forum: ก้าวสำคัญความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส | World Wide View

France-Thailand Business Forum: ก้าวสำคัญความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศส | World Wide View

นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน นำคณะนักธุกิจไทยเข้าร่วมงาน France-Thailand Business Forum ในฝรั่งเศสเมื่อเดือน พ.ค. พร้อมเผยถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย และเน้นย้ำรัฐบาลให้การสนับสนุนดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนทั้งสองประเทศ

การเยือนฝรั่งเศสของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสินเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 นับเป็นการเยือนฝรั่งเศสครั้งที่สองของนายกรัฐมนตรีในรอบสองเดือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงพลวัตรความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศสที่โดนเด่น ฝรั่งเศสยังเป็นประเทศแรกในยุโรปที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนอย่างเป็นทางการหลังจากที่เข้ารับตำแหน่ง จากการพบหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสในครั้งนั้น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ผู้นำทั้งสองได้ตกลงที่จะร่วมกันจัดงาน France-Thailand Business Forum ที่กรุงปารีส เพื่อเป็นเวทีและโอกาสสำหรับภาคเอกชนทั้งสองประเทศในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือนำไปสู่การเปิดศักราชใหม่ ในการทำธุรกิจระหว่างกัน

ในการเยือนครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้นำคณะนักธุกิจไทยเข้าร่วมงาน France-Thailand Business Forum และได้กล่าวปาฐกถาถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยและความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนทั้งสองประเทศ ภายใต้วิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ในขณะที่ฝ่ายฝรั่งเศสได้กล่าวถึงความสำคัญของประเทศไทยต่อฝรั่งเศส โดยมองว่าไทยตั้งอยู่ในใจกลางของอาเซียน และเป็นที่ที่มีชุมชนฝรั่งเศสอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ประมาณ 45,000 ถึง 50,000 คน เป็นอันดับสองรองจากจีน

 

ทั้งนี้ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของฝรั่งเศสในอาเซียน มูลค่าการค้าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่งมีโอกาสขยายตัวได้อีกในอนาคต ด้านการท่องเที่ยว ในแต่ละปีมีชาวฝรั่งเศสนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยประมาณ 5 แสนคน ในขณะที่ชาวไทยเดินทางไปท่องเที่ยวฝรั่งเศสประมาณเกือบ 2 แสนคนต่อปี โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะให้มีการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกัน

นอกจากนี้ ในห้วงการเยือนฝรั่งเศสของนายกรัฐมนตรี ไทยและฝรั่งเศสยังได้มีการลงนามความตกลงระหว่างกัน 4 ฉบับ ในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน เทคโนโลยีอวกาศ และการพัฒนาเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการอันโดดเด่นของความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ โดยผู้นำทั้งสองได้ร่วมแสดงความยินดีต่อการลงนามความตกลงและถ่ายภาพร่วมกับผู้ลงนามฝ่ายไทย ได้แก่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บริหารระดับสูงจาก GISTDA บริษัท CP International และบริษัท CPF ณ ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส (Élysée Palace)

เมื่อมองย้อนกลับไป นับเป็นเวลากว่าสามศตวรรษตั้งแต่ปี 2228 ที่สยามได้มีการติดต่อสัมพันธ์ครั้งแรกกับฝรั่งเศส ในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชที่สยามได้ส่งพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ราชทูตแห่งสยามเดินทางเยือนฝรั่งเศสและได้เข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และในปี 2568 นี้ ก็จะเป็นการครบรอบเฉลิมฉลอง 340 ปี ของการติดต่อสัมพันธ์กันครั้งแรก ซึ่งไทยและฝรั่งเศสมีแผนที่จะยกระดับความสัมพันธ์ที่ยาวนานและแน่นแฟ้นนี้ ไปสู่การสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (strategic partnership) ระหว่างกัน เพื่อร่วมกันมองไปข้างหน้า และมีความร่วมมือกันในสาขาใหม่ ๆ 

นอกจากนี้ ในปี 2569 ยังเป็นการครบรอบ 170 ปี การเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับฝรั่งเศสอีกด้วย ดังนั้น ในวาระอันพิเศษนี้ ไทยจึงหวังว่าจะมีโอกาสต้อนรับประธานาธิบดีฝรั่งเศสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อร่วมจารึกอีกหมุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ไทยกับฝรั่งเศส ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีระหว่างการเยือนฝรั่งเศสเมื่อครั้งล่าสุดที่ผ่านมา