ท่องเมือง Gdańsk มนต์เสน่ห์โปแลนด์ | World Wide View
Gdańsk (กดังสก์) เป็นหนึ่งในเมืองที่มีสีสันมากเมืองหนึ่งในโปแลนด์ เป็นศูนย์กลางทางการค้าและเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย ปัจจุบัน Gdańsk ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโปแลนด์ มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกว่า 3 ล้านคน
หากเอ่ยถึงประเทศน่าเที่ยว โปแลนด์เป็นมีสีสันเชิงประวัติศาสตร์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะประวัติศาสตร์สงคราม เนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศมหาอำนาจในยุโรปมากมาย และเป็นมหาอำนาจที่คอยแผ่ขยายอำนาจไปยังทิศต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เมืองต่างๆ ในโปแลนด์มีประวัติเกี่ยวกับสงครามอย่างโชกโชน และหนึ่งในเมืองที่มีสีสันมากเมืองหนึ่งก็คือเมือง Gdańsk (กดังสก์)
Gdańsk เป็นเมืองทางตอนเหนือติดกับทะเลบอลติก หากว่ายน้ำข้ามทะเลไปได้โดยไม่ขาดใจซะก่อนก็จะไปเจอสวีเดนหรือเดนมาร์ก และสามารถทะลุออกไปยังยุโรปอื่น ๆ ได้ ด้วยความที่เป็นเมืองที่มีช่องทางออกทะเลดังกล่าว ทำให้ Gdańsk มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ และเป็นที่หมายปองของหลายประเทศในแถบนี้
ในประวัติเก่าแก่นั้น เมืองนี้เริ่มพบหลักฐานการมีถิ่นฐานของชุมชนชาวประมงตั้งแต่ศตวรรษที่ 7 และมาเป็นส่วนหนึ่งของโปแลนด์ในศตวรรษที่ 10 ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 12 กษัตริย์โปแลนด์ได้เชิญกลุ่ม Teutonic Knights (กลุ่มอัศวินฝีมือดีที่คอยอารักขาคนคริสต์ที่จะเดินทางไปแสวงบุญที่เยรูซาเล็ม) เข้ามาเพื่อปราบพวกโจรที่ออกปล้นชาวบ้านอยู่ทั่วไปจนทางการดูแลไม่ไหว อยู่ไปอยู่มาอัศวินพวกนี้กลับได้ใจแผ่อิทธิพลจนยึดพื้นที่แถบนี้เอาไว้ และได้สร้างป้อมปราการ Malbork เป็นศูนย์กลางทำการของตัวเอง จนทำให้ต่อมากษัตริย์โปแลนด์ต้องเข้ามาปราบกลุ่มอัศวิน Teutonic อีกที และได้เปลี่ยนป้อม Malbork เป็นปราสาทของกษัตริย์ (ปัจจุบัน หากนับรวมพื้นที่ดินด้วย ปราสาท Malbork ถือเป็นปราสาทอิฐที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นหนึ่งในมรดกโลกของ UNESCO)
ในช่วงศตวรรษที่ 16-17 เมื่อโปแลนด์ผลิตและส่งออกธัญพืชได้มาก เมือง Gdańsk ซึ่งเป็นปลายทางของแม่น้ำ วิสตูลาอันแม่น้ำสายหลักของโปแลนด์ที่ไหลมาถึงเมือง คราคูฟ เมืองหลวงของโปแลนด์ในขณะนั้น ทำให้ Gdańsk เป็นทำเลทองและเป็นศูนย์กลางแห่งการค้า มีเรือสินค้าจากยุโรปมาเทียบท่าแทบหัวกระไดไม่แห้ง
แต่ความอุดมสมบูรณ์ของโปแลนด์และความเนื้อหอมของ Gdańsk ก็นำภัยมาถึงตัว เพราะในช่วงศตวรรษที่ 17 อาณาจักรปรัสเซีย ออสเตรีย และรัสเซีย ก็เข้ามารุมทึ้งโปแลนด์ออกเป็น 3 ส่วนและแบ่งกันปกครองหลายรอบ โดยเมือง Gdańsk ตกอยู่ภายใต้อาณาจักรปรัสเซียซึ่งต่อมาก็คือจักรวรรดิเยอรมัน ทำให้โปแลนด์ถูกลบจากพื้นที่โลกไปถึง 123 ปี และทำให้ Gdańsk มีสถาปัตยกรรมเยอรมันดาษตาและชุมชนเยอรมันอาศัยอยู่มาก
พอสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลงในปี 1918 โปแลนด์ได้อิสรภาพกลับคืนมาอีกครั้ง เมือง Gdańsk ถูกตั้งให้เป็นรัฐอิสระภายใต้การดูแลของ League of Nations แต่ด้วยความที่มีชุมชนเยอรมันอยู่มากทำให้ผู้ปกครองและประชาชนในเมืองมีใจเอนเอียงไปทางเยอรมันมากกว่าโปแลนด์ แต่โปแลนด์ก็ต้องการพื้นที่ของเมืองเพื่อไปออกสู่ทะเล ทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกับเยอรมันอยู่เป็นระยะ จนโปแลนด์ต้องมาตั้งคลังอาวุธที่บริเวณ Westerplatte ด้านเหนือของเมือง ซึ่งจุดนี้เองคือจุดที่เมื่อฮิตเลอร์และนาซีเยอรมันจะยึดโปแลนด์ ก็ส่งเครื่องบินมาโจมตีเป็นที่แรก นับเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง
วันเวลาผ่านไป สงครามได้เริ่มต้นและจบไป น้ำตาของคนก็ไหลรินและเหือดแห้งไป ปัจจุบัน Gdańsk ซึ่งได้ถูกทำลายจนเกือบราบคาบในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองก็ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ และได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของโปแลนด์ โดยเมืองมีประชากรประมาณ 4.8 แสนคน แต่ต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่าปีละ 3 ล้านคน เป็นเมืองหลวงแห่งการขายอำพัน สินค้าขึ้นชื่อหนึ่งของโปแลนด์ ในฤดูร้อน Gdańsk จะเป็นเมืองเป้าหมายของคนโปแลนด์และยุโรป โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันและสแกนดิเนเวีย