‘ไฮเนเก้น’ ปิดโรงเบียร์ในเวียดนามชั่วคราว ชี้ตลาดหด กฎหมายเข้ม ผู้บริโภคเปลี่ยน
“ไฮเนเก้น” หยุดการดำเนินงานโรงเบียร์แห่งหนึ่งในเวียดนามชั่วคราว อ้าง 3 เหตุผล ตลาดเบียร์หดตัว กฎหมายห้ามดื่มสุราที่เข้มงวดขึ้น และรูปแบบการบริโภคในภูมิภาคที่เปลี่ยนไป
เว็บไซต์นิกเคอิ เอเชียรายงานว่า “ไฮเนเก้น” (Heineken) บริษัทผู้ผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ประกาศหยุดการดำเนินงานโรงเบียร์แห่งหนึ่งในเวียดนามลงชั่วคราวตั้งแต่เดือนมิ.ย. นี้ เนื่องจากความต้องการลดลง และรูปแบบการบริโภคในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เปลี่ยนแปลงไป
ขณะที่กฎหมายเมาไม่ขับขี่ที่เข้มงวดขึ้นของเวียดนาม ซึ่งกำหนดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ขับขี่ไว้ที่ระดับ “ศูนย์” มาตั้งแต่ปี 2562 ส่งผลกระทบต่อยอดบริโภคเบียร์ด้วยเช่นกัน
ในปี 2566 ตลาดเบียร์เวียดนามมีการหดตัวเป็นเลขสองหลักครั้งแรกในรอบหลายทศวรรษ และยังคงมีการหดตัวลงเป็นเลขหลักเดียวในปีนี้
สำหรับโรงเบียร์ไฮเนเก้นที่หยุดดำเนินงานชั่วคราว ตั้งอยู่ที่จังหวัดกว๋างนามของเวียดนาม ซึ่งเป็นโรงเบียร์เล็กที่สุดในบรรดาโรงเบียร์ 6 แห่งของไฮเนเก้นในเวียดนาม โดยเป็นการหยุดดำเนินงานชั่วคราว เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์บริษัท
บริษัทกล่าวว่า “เรากำลังแสวงหาประสิทธิภาพและการประหยัดต่อขนาด เพื่อปรับกระบวนการดำเนินงานของเรา ให้สามารถเดินหน้าลงทุน และปลดล็อกการเติบโตในตลาดเวียดนามต่อไป” โดยพนักงานบางส่วนที่ได้รับผลกระทบจะถูกย้ายไปยังโรงเบียร์อื่นของไฮเนเก้นในเวียดนาม
ทั้งนี้ บริษัทไฮเนเก้นดำเนินธุรกิจในเวียดนามผ่าน บริษัท ไฮเนเก้น เวียดนาม ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้ากับบริษัทในท้องถิ่นอย่าง Saigon Trading Group ตั้งแต่ปี 2534 โดยบริษัทได้ลงทุนกว่า 1 พันล้านยูโรในเวียดนาม และมีพนักงานประจำโดยตรงกว่า 3,000 คน
ก่อนหน้านี้ กระทรวงการคลังของเวียดนามประกาศว่า รัฐบาลมีแผนที่จะปรับขึ้นภาษีการบริโภคสำหรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็น 100% ภายในปี 2573 ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมนี้ต่อไป
อ้างอิง: nikkei
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์