เริ่มแล้ว EU เก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจีน สูงสุดเกือบ 38%
สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนสูงสุด 36.7% โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์ (5 ก.ค.) เป็นต้นไป หลังนี้ต้องจับตาดูต่อไปว่าการเจรจาภาษีอีวีระหว่างจีนและยุโรปจะสำเร็จหรือไม่
สหภาพยุโรป (อียู) เตรียมเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนราว 17.4-36.7% มีผลตั้งแต่วันศุกร์ (5 ก.ค.) เป็นต้นไป ซึ่งมาตรการดังกล่าวดำเนินการเพื่อปกป้องภัยคุกคามจากอีวีจีนราคาถูกที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐจำนวนมาก
บีวายดี (BYD) อาจเผชิญกับอัตราภาษีที่ระดับ 17.4%, จีลี่ (Geely) ที่ระดับ 19.9% และ SAIC ที่ระดับ 37.6% ซึ่งการเรียกเก็บภาษีอีวีของแบรนด์เหล่านี้ สูงกว่าอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ปกติที่ระดับ 10%
ส่วนแบรนด์อีวีที่อียูมองว่าให้ความร่วมมือในการสอบสวนต่อต้านเงินอุดหนุน รวมถึงแบรนด์อีวีจากสหรัฐ เช่น เทสลา (Tesla) และบีเอ็มดับเบิลยู (BMW) แบรนด์สัญชาติเยอรมนี อาจถูกเรีบกเก็บภาษีสู่ระดับ 20.8% ขณะที่แบรนด์ที่ไม่ให้ความร่วมมือจะถูกเรียกเก็บภาษีที่ระดับ 37.6%
อย่างไรก็ตาม อัตราภาษีที่อียูเรียกเก็บจากอีวีจีนยังคงต่ำกว่าอัตราภาษีที่รัฐบาลวอชิงตันจ่อเรียกเก็บจากจีนที่ระดับ 100% ซึ่งจะมีผลในเดือน ส.ค.
ทั้งนี้ ยังมีเวลาอีก 4 เดือน ที่จีนและอียูจะเจรจาเกี่ยวกับภาษีรถยนต์อีวีจีน และหลังจากนั้นสมาชิกในอียูจะลงมติประกาศอัตราภาษีขั้นสุดท้าย หากการเจรจาไม่มีข้อสรุปที่ตกลงกันได้ อัตราภาษีจะยังคงเหมือนกับที่ประกาศใช้ในวันที่ 5 ก.ค. และจะมีผลบังคับใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่การสืบสวนเพื่อต่อต้านการให้เงินอุดหนุนของอียู ยังคงดำเนินต่อไปอีกราว 4 เดือนเช่นกัน
จากคาดการณ์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปคาดว่า สัดส่วนแบรนด์อีวีจีนในตลาดอียูเพิ่มสูงขึ้นสู่ระดับ 8% จากระดับ 1% ในปี 2562 และอาจโตแตะระดับ 15% ภายในปี 2568 และรถยนต์ไฟฟ้าของจีนมีราคาต่ำกว่ารถอีวีที่ผลิตในยุโรปมากถึง 20%