ทรัมป์เลือกเอง 'เจ ดี แวนซ์' คู่ชิงรองประธานาธิบดี
การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลือก เจ ดี แวนซ์ สมาชิกวุฒิสภาวัย 39 ปีจากรัฐโอไฮโอ เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดี ถือเป็นการให้รางวัลอดีตนักวิจารณ์ปากกล้าผู้ผันตัวมาสนับสนุนทรัมป์อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู
เจ ดี แวนซ์ วัย 39 ปี อ่อนกว่าทรัมป์วัย 78 ปี ถึงเกือบสี่ทศวรรษ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสการเปลี่ยนรุ่นภายในพรรคและเป็นการดึงเสียงจากโหวเตอร์พนักงานออฟฟิศที่เคยสนับสนุนพรรคเดโมแครตอย่างแข็งขัน ในรัฐที่ต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนักอย่างมิชิแกน วิสคอนซิน และเพนซิลเวเนีย บ้านของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า แวนซ์ เกิดเมื่อวันที่ 2 ส.ค. 1984 ที่มิดเดิลทาวน์ รัฐโอไฮโอ ใช้ชีวิตวัยเยาว์บางช่วงในเคนทักกี ทำงานในหน่วยนาวิกโยธินระหว่างปี 2003-2007 ก่อนเข้ามหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอและวิทยาลัยกฎหมายเยล ต่อมาเป็นนักลงทุนในสตาร์ทอัพแล้วจึงเล่นการเมือง
ปี 2016 เจ ดี แวนซ์ เปิดตัวหนังสือขายดี“Hillbilly Elegy” (กำสรวลคนบ้านนอก) บอกเล่าชีวิตยากจนวัยเด็กในแถบเมืองอุตสาหกรรมของสหรัฐทางตะวันออกของโอไฮโอ ฉายภาพการต่อสู้ของชนชั้นพนักงานออฟฟิศอเมริกา ความเข้าอกเข้าใจในประชากรกลุ่มนี้ทำให้เขาสนับสนุน ทรัปม์ตอนเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรก และได้รับเชิญเข้ารายการเคเบิลทีวีอยู่บ่อยๆ จนเป็นผู้สื่อข่าวพิเศษของซีเอ็นเอ็นระหว่างปี 2017-2018
หนังสือถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ทางช่องเน็ตฟลิกซ์ในปี 2020 นำแสดงโดยเอมี อดัมส์ และเกล็นน์ โคลส
มีเสียงซุบซิบมานานว่า แวนซ์ต้องเล่นการเมือง เจ้าตัวเห็นโอกาสเมื่อร็อบ พอร์ตแมน ส.ว.รัฐโอไฮโอ พรรครีพับลิกันตัดสินใจไม่ลงเลือกตั้งต่อในปี 2022 แต่อุปสรรคสำคัญของเขาคือเคยวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มาก่อนระหว่างปี 2016-2017เช่น โพสต์ว่าทรัมป์กระทำการ “ข่มขืนต่อเนื่อง” “เป็นเซเลบที่ชั่วร้าย ผู้คนเกลียดชัง และน่ารำคาญที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐ”
แวนซ์ขอโทษกับความเห็นที่เคยแสดงและจัดการแก้ไขข้อผิดพลาดจนได้รับการรับรองจากทรัมป์ ผลักดันให้เขาขึ้นไปอยู่ในกลุ่มผู้นำพรรครีพับลิกันและได้เป็น ส.ว.ในที่สุด
“หลังจากใช้เวลาไตร่ตรองและครุ่นคิดมายาวนาน พิจารณาถึงความสามารถมหาศาลของอีกหลายๆ คน ผมได้ตัดสินใจว่าคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคือ ส.ว.เจ ดี แวนซ์ แห่งรัฐโอไฮโออันยิ่งใหญ่” ทรัมป์ประกาศผ่านแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลของตนเองในช่วงที่การประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันเริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ (15 ก.ค.) ในเมืองมิลวอกี
โดยปกติผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีมักเลือกคู่ชิงรองฯ ที่สามารถดึงคะแนนเสียงจากโหวตเตอร์กลุ่มใหม่หรือสามารถปิดจุดอ่อนของตนเองได้ไม่ว่าจะในแง่ภาพลักษณ์หรือนโยบายแต่ทรัมป์กลับเลือกผู้ชายผิวขาวอนุรักษนิยมเช่นเดียวกับเขาจากรัฐที่เขามีโอกาสชนะอยู่แล้ว
ไม่กี่นาทีหลังประกาศชื่อแวนซ์เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีคนที่ทรัมป์เลือก อเล็กซ์ ทริอานตาฟิลู ประธานพรรครีพับลิกันรัฐโอไฮโอ กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ดีใจมาก แวนซ์ “จะช่วยเพิ่มโอกาสมหาศาล” ให้ชนะเลือกตั้ง เนื่องจากมีประสบการณ์ร่วมกับชาวอเมริกันชนชั้นแรงงานและชนชั้นกลางหลายล้านคน
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของเบอร์ 2 พรรครีพับลิกัน และว่าการเลือกเขาจะเป็นการทำร้ายครอบครัวชนชั้นกลาง
“นี่คือปัญหาเกี่ยวกับเจ ดี แวนซ์ เขาพูดจาคำใหญ่คำโตเกี่ยวกับคนทำงาน แต่ตอนนี้ เขาและทรัมป์ต้องการขึ้นภาษีครอบครัวชนชั้นกลาง พร้อมกับผลักดันลดภาษีคนมีเงินมากขึ้น” ไบเดนโพสต์บนแพลตฟอร์ม X