ฟิลิปปินส์ ‘แบนคาสิโนออนไลน์!’ หลังพบเป็นเครื่องมือทุนจีนฟอกเงิน

ฟิลิปปินส์ ‘แบนคาสิโนออนไลน์!’ หลังพบเป็นเครื่องมือทุนจีนฟอกเงิน

‘ฟิลิปปินส์’ เตรียมปิดฉาก ‘การพนันออนไลน์’ ที่ดึงดูดนักพนันจากต่างประเทศรวมถึงชาวจีน หลังพบว่ากลายเป็น ‘แหล่งฟอกเงิน’ ให้ทุนจีนสีเทา และเอี่ยวอาชญากรรมข้ามชาติ โดยประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ได้ประกาศแบนคาสิโนเหล่านี้อย่างเด็ดขาด

ท่ามกลาง “คาสิโนออนไลน์” ที่เป็นสิ่งถูกกฎหมายในฟิลิปปินส์มานาน และนำรายได้ให้ประเทศเป็นจำนวนไม่น้อย แต่ในปัจจุบัน ธุรกิจสีเทานี้ได้กลายเป็นสิ่งผิดกฎหมายแล้ว โดยเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนปัจจุบัน และเป็นลูกชายของ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำเผด็จการ ได้สั่ง “แบน” คาสิโนออนไลน์ ซึ่งมักมีลูกค้าหลักเป็นนักพนันชาวจีน อีกทั้งทุนจีนได้เข้าไปมีอิทธิพล เพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องให้ปิดอุตสาหกรรมนี้ เนื่องจากมาร์กอส จูเนียร์มองว่า “การพนัน” เป็นสิ่งยั่วยุให้เกิดอาชญากรรมต่าง ๆ อย่างการฟอกเงิน

มาร์กอส จูเนียร์ประกาศลั่นต่อหน้ารัฐสภาว่า “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ให้บริการการพนันออนไลน์ (POGO) ทั้งหมดในฟิลิปปินส์จะถูกแบน” พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานกำกับการพนันปิดสถานประกอบการเหล่านี้ภายในสิ้นปี อีกทั้งประธานาธิบดีฯได้สั่งให้ทีมเศรษฐกิจหางานใหม่ให้กับพนักงานที่ได้รับผลกระทบ

ฟิลิปปินส์ ‘แบนคาสิโนออนไลน์!’ หลังพบเป็นเครื่องมือทุนจีนฟอกเงิน - คาสิโนออนไลน์ (เครดิต: Shutterstock) -

จีนเทาใช้คาสิโนในฟิลิปปินส์ฟอกเงิน

การประกาศแบนพนันดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงที่วุฒิสภากำลังพิจารณาคดีใหญ่สะเทือนวงการของ “อลิซ กัว” (Alice Guo) นายกเทศมนตรีแห่งเทศบาลบัมบันที่ถูกกล่าวหาว่า ฟอกเงินผ่านธุรกิจที่เชื่อมโยงเว็บพนันออนไลน์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารกว่า 90 บัญชีที่เชื่อมโยงกับเธอ และบุคคลอื่น ๆ ในข้อหาต้องสงสัยว่าฟอกเงิน ค้ามนุษย์ และฉ้อโกง ขณะที่ทางกัวได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ที่น่าตกใจ คือ เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ได้เปิดเผยหลักฐานว่า อลิซ กัว นายกเทศมนตรีที่กำลังเผชิญข้อกล่าวหาว่าฟอกเงิน และเป็นสายลับนั้น แท้จริงแล้วเป็น “พลเมืองจีน” เนื่องจากลายนิ้วมือของเธอตรงกับลายนิ้วมือของพลเมืองจีนคนหนึ่งที่ชื่อว่า “กัว หัว ผิง” (Guo Hua Ping) ซึ่งเคยเดินทางเข้าฟิลิปปินส์เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว

ฟิลิปปินส์ ‘แบนคาสิโนออนไลน์!’ หลังพบเป็นเครื่องมือทุนจีนฟอกเงิน - อลิซ กัว (เครดิต: Facebook/AliceLealGuo) -

ฟิลิปปินส์ ‘แบนคาสิโนออนไลน์!’ หลังพบเป็นเครื่องมือทุนจีนฟอกเงิน - หนังสือเดินทางของกัว หัว ผิง (เครดิต: Sen. Sherwin Gatchalian) -

คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาใหญ่ว่า เหล่าทุนจีนสีเทาใช้ช่องโหว่กฎหมาย โดยเฉพาะในธุรกิจคาสิโนซึ่งผิดกฎหมายในจีน แต่ถูกกฎหมายในฟิลิปปินส์ เป็นฐานที่มั่นในการฟอกเงิน และประกอบธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ ไม่แน่ว่าคดีของนางสาวกัว ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้น คาดว่ายังมีผู้มีอิทธิพล และเจ้าหน้าที่รัฐในฟิลิปปินส์อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาเหล่านี้

“การละเมิดและไม่เคารพต่อระบบกฎหมายของเรานั้นต้องหยุดลง” มาร์กอสปราศรัยเกี่ยวกับการพนัน จนทำให้ผู้ฟังปรบมือดังลั่น โดยเขาเสริมว่า ผู้ให้บริการการพนันเหล่านี้ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าการหลอกลวงทางการเงิน การฟอกเงิน ค้ามนุษย์ ลักพาตัว และแม้กระทั่งการฆาตกรรม

คาสิโนในฟิลิปปินส์รุ่งสุดขีดในยุคดูแตร์เต

ราล์ฟ เร็คโต (Ralph Recto) รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง กล่าวในแถลงการณ์ว่า การแบนคาสิโนจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ เพราะอุตสาหกรรมนี้ “หดตัวลง” ตั้งแต่ช่วงจุดสูงสุดเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีต้นทุนทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่ 265,700 ล้านเปโซ (ราว 1.6 แสนล้านบาท) ต่อปี ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงต่อภาคการลงทุนและการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ธุรกิจพนันออนไลน์เคยเจริญรุ่งเรืองสุดขีดในสมัยประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ซึ่งดำรงตำแหน่งก่อนมาร์กอส ประเทศในขณะนั้นได้หันนโยบายต่างประเทศไปทางจีน จนทำให้ในช่วงนั้น ชาวจีนจำนวนหลายหมื่นคนได้เดินทางไปที่กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์และต้นทุนการบริโภคในประเทศทะยานขึ้น

ช่วงที่ดูแตร์เตดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีระหว่างปี 2016-2022 มีการจดทะเบียนบริษัทการพนันหลายร้อยแห่งอย่างเป็นทางการ โดยสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลายพันแห่ง คาดว่าการพนันออนไลน์มีส่วนสร้างรายได้ทางภาษีและค่าธรรมเนียมให้กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี ผ่านการจ้างงานชาวฟิลิปปินส์จำนวนไม่น้อย และสร้างรายได้ทางอ้อมที่สำคัญ

อย่างไรก็ตาม เมื่อทั่วโลกเกิดวิกฤติโควิด-19 ธุรกิจการพนันในฟิลิปปินส์ซึ่งพึ่งพาลูกค้าจีนเป็นส่วนใหญ่ก็ชะลอตัวลง ประกอบกับนักวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการฉ้อโกงทางไซเบอร์ของจีนพบว่า กลุ่มทุนจีนสีเทาจำนวนไม่น้อยได้ตัดสินใจออกจากคาสิโนในฟิลิปปินส์หลังเปลี่ยนรัฐบาลจากดูแตร์เต และไปที่เมียนมา กัมพูชา และลาว ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์กลางหลักของธุรกิจนี้แทน 

“ประธานาธิบดีมาร์กอส ได้แสดงจุดยืนต่อต้านการพนันออนไลน์อย่างแน่วแน่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ และต่อสู้กับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” อัลวิน แคมบา (Alvin Camba) ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยร่วมแห่ง Associated Universities Inc. กล่าว

จะเห็นได้ว่า “ธุรกิจคาสิโน” ในฟิลิปปินส์ แม้จะสร้างรายได้ไม่น้อย แต่ก็มาพร้อมกับผลกระทบด้านลบต่อสังคมหลายประการ ซึ่งถ้ากฎหมายไม่เข้มงวดและไม่เด็ดขาดเพียงพอ แหล่งการพนันก็อาจกลายเป็น “ช่องโหว่ใหม่” ให้เหล่าอาชญากรใช้เป็นแหล่งฟอกเงิน และทำธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ ดังที่เกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ได้

อ้างอิง: reutersbloombergdiplomatscmp