เปิดใจโสเภณีฝรั่งเศส หากินลำบากช่วง 'โอลิมปิกปารีส' หลังตำรวจออกตรวจเข้ม

สำนักข่าวเอเอฟพีเผย การเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2024 ของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สะเทือน อาชีพโสเภณี ที่ไม่มีใบอนุญาต เพราะตำรวจสายตรวจคุกคามการใช้ชีวิตของพวกเธอ

“หัว” หญิงโสเภณีชาวจีนที่ไม่มีใบอนุญาตวัย 55 ปี เผยว่า เธอรู้สึกกดดัน และกลัวอยู่ตลอดเวลา เพราะมีตำรวจตรวจตราทุกวัน

“ฉันได้ออกไปข้างนอกน้อยลง และทำงานได้น้อยลง”

ภายใต้กฎหมายฝรั่งเศส การขายบริการทางเพศเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่การแสวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่น การเรียกแขก การเป็นนายหน้าจัดหาลูกค้าให้โสเภณี และการให้ผู้เยาว์ขายบริการทางเพศถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งหากโสเภณีและลูกค้าทำผิดจะได้รับโทษทางอาญา

อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้นอีก หากเซ็กส์เวิร์กเกอร์ไม่มีใบอนุญาต

ตามคาดการณ์ของรัฐบาลและองค์กรการกุศล ระบุว่า มีผู้คนราว 40,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ให้บริการทางเพศ หรือถูกแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศในฝรั่งเศส

หญิงหม่ายชาวจีนกล่าวว่า “ฉันกลัวว่าฉันจะถูกจับและไม่สามารถหากินตามถนนในช่วงโอลิมปิกได้” โสเภณีคนนี้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านม เดินทางมายังฝรั่งเศสเมื่อ 7 ปีก่อน เดิมทีเธอหวังว่าจะมีรายได้จากอาชีพทำความสะอาด

“ถ้าเขาจับฉัน ฉันอาจถูกส่งกลับไปจีน และจะไม่ได้รับการรักษาพยาบาลที่นั่น” หญิงชาวจีนรายนี้กล่าวทั้งน้ำตา ขณะให้สัมภาษณ์อยู่ในสำนักงาน Medecins du Monde หรือ Doctors of the World ในย่าน Belleville ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีส ซึ่งองค์กรดังกล่าวเป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ให้การรักษาแก่ผู้เปราะบาง และสนับสนุนความไม่เท่าเทียมทางสุขภาพ

“ฉันไม่เข้าใจ เราไปทำอะไรให้ใครเหรอ” หญิงชาวจีนตัดพ้อ และเผยว่า บางครั้งเธอขายบริการให้กับลูกค้าดี ๆ ในราคาเพียง 20 ยูโร หรือราว 780 บาท เพราะพวกเขาไม่มีเงิน เช่นเดียวกับเธอ

มิลีน จัสต์ หญิงขายบริการรายหนึ่งในย่านถนนที่เลื่องชื่อด้านการซื้อขายบริการทางเพศใกล้ใจกลางเมือง บอกว่า เธอกังวลเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นมาตรการจำกัดการสัญจรบนทางเท้า และการจราจรทั่วปารีส

เซ็กส์เวิร์กเกอร์วัย 50 ปี ที่ประกอบอาชีพมานาน 22 ปีรายนี้ บอกว่า

“ลูกค้าของเราไม่สามารถใช้บริการได้ภายใต้มาตรการจำกัดทั้งหมดที่มีขึ้น และฉันไม่คิดว่านักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมาจะเข้าหาเรา เราจึงเตรียมออกไปจากที่นี่”

 

หันไปซื้อขายบริการทางเพศในออนไลน์

ก่อนเริ่ม พิธีเปิดโอลิมปิก ผู้ขายบริการทางเพศอย่างหัวและจัสต์ ต่างหายไปจากสถานที่ที่พวกเธอประกอบอาชีพตามปกติ ขณะที่การค้าบริการทางเพศทางออนไลน์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็เป็นที่จับตาของตำรวจที่ต่อต้านการแสวงหาประโยชน์ทางเพศเช่นกัน

ตำรวจหญิงที่รับผิดชอบเกี่ยวกับกลุ่มอาชีพนี้กล่าวกับเอเอฟพีว่า

“ลูกค้าหันไปใช้ช่องทางออนไลน์มากขึ้น เลือกหมวดหมู่ ราคา และช่วงเวลาได้”

หญิงโสเภณีรายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อบอกว่า การใช้บริการผ่านเว็บไซต์เหมือนกับการสั่งอาหารออนไลน์ แต่ไม่ได้มีให้เลือก “เด็กสาว”

องค์กร Medecins du Monde ที่พยายามสนับสนุนเซ็กส์เวิร์กเกอร์ บอกว่า หน่วยงานพบการโฆษณาหรือการเสนอขายบริการมากกว่า 46,000 รายการ บนเว็บไซต์ชื่อดังภายในเย็นวันเดียว

กฎหมายฝรั่งเศสทำโสเภณีเสี่ยงโดนทำร้าย

การเป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกของฝรั่งเศสครั้งนี้ เกิดขึ้นพร้อมกับการตัดสินครั้งสำคัญของศาลสิทธิมนุษยธรรมสหภาพยุโรป (ECHR) เมื่อวันพฤหัสบดี (25 ก.ค.) ที่ระบุว่า กฎหมายของฝรั่งเศสที่ทำให้ลูกค้าซื้อขายบริการทางเพศเป็นอาชญากร ไม่ได้ละเมิดอนุสัญญายุโรปว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

คำตัดสินดังกล่าวสร้างความไม่พอใจต่อกลุ่มสิทธิมนุษยชนบางกลุ่มที่ต่อต้านนโยบายของฝรั่งเศส ที่พวกเขามองว่าเป็นการเพิ่มการตีตราให้กับกลุ่มผู้ขายบริการทางเพศ

เอริน คิลไบรด์ นักวิจัยสิทธิของผู้หญิงและกลุ่ม LGBT จากฮิวแมนไรท์วอตช์ (Human Rights Watch) บอกว่า การทำให้ลูกค้าเป็นอาชญากร จะเพิ่มการทำร้ายร่างกาย ความรุนแรงทางเพศ และการคุกคามของตำรวจต่อผู้ขายบริการ แต่ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการกำจัดการค้ามนุษย์อย่างชัดเจน

ทางการฝรั่งเศสคาดว่า แก๊งที่ร่วมกันสนับสนุนการค้าประเวณีผู้หญิงจากบราซิล โคลอมเบีย และปารากวัย ยังคงโฆษณาการขายบริการต่อไปในช่วงการแข่งขันโอลิมปิก และคาดว่าการค้าประเวณีระดับไฮเอนด์อาจเพิ่มขึ้น ตามคาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวผู้มีความมั่งคั่งจะเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงกังวลเกี่ยวกับการทารุณกรรมผู้เยาว์เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงเด็กสาวกลุ่มเปราะบางจากระบบดูแลของภาครัฐ

ตามข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชน Acting Against the Prostitution of Children พบว่า ในฝรั่งเศสมีผู้เยาว์ราว 20,000 คน ที่ถูกนำไปเป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์

เมื่อ พ.ค. ศาลในฝรั่งเศสได้สั่งจำคุกชาย 5 คน ฐานจ่ายเงินเพื่อล่วงละเมิดเด็กอายุ 12 ปี ซึ่งถือเป็นคดีที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ส่วนเด็กผู้หญิงในคดีนี้ถูกชักจูงไปเป็นโสเภณีหลังเธอหนีออกจากบ้าน

 

อ้างอิง: AFP