Starbucks รายได้พลาดเป้า 2 ไตรมาสติด ตลาด 'จีน' ฉุดยอดขายวูบ 14%

'สตาร์บัคส์' (Starbucks) รายงานผลประกอบการวันที่ 30 ก.ค. พบรายได้พลาดเป้าเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน โดยมีรายได้ 9,110 ล้านดอลลาร์ จากที่นักวิเคราะห์ของ LSEG คาดการณ์ว่าจะทำได้ 9,240 ล้านดอลลาร์ โดยมีแรงฉุดหลักๆ มาจากยอดขายที่ลดลงใน 2 ตลาดหลักคือ จีนและสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังสามารถทำกำไรได้ตามเป้า โดยมีกำไรต่อหุ้น (ESP) ที่ 93 เซนต์ต่อหุ้น ตรงตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 1,050 ล้านดอลลาร์ แต่ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1,140 ล้านดอลลาร์ หรือ 99 เซนต์ต่อหุ้น 
 

ลักษมัน นาราซิมฮัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสตาร์บัคส์กล่าวว่า มีลูกค้าซื้อกาแฟบรรจุภัณฑ์ของร้านมากขึ้น แต่บรรยากาศการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงเป็นความท้าทายที่กดดันยอดขายของร้าน

บริษัทมียอดขายสุทธิลดลง 1% และมียอดขายจากสาขาเดิม (same-store sales) ลดลง 3 %โดยใน "สหรัฐ" ซึ่งเป็นตลาดหลักของสตาร์บัคส์นั้นมียอดคนเข้าร้านลดลง 6% ยอดขายจากสาขาเดิมลดลง 2% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปรับราคาสินค้าแพงขึ้น ส่วนทิศทางนอกตลาดอเมริกาเหนือมียอดขายจากสาขาเดิมลดลง 7% 

ในขณะที่ตลาด "จีน" ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสตาร์บัคส์มียอดขายปรับตัวลดลงถึง 14% ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดกาแฟในจีนที่รุนแรงขึ้น จากบรรดาร้านกาแฟท้องถิ่นที่สู้ด้วยราคา  แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสัญญาณที่ดีอยู่บ้างในจีน เนื่องจากธุรกรรมเฉลี่ยรายวันและยอดขายรายสัปดาห์ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว 

ซีอีโอสตาร์บัคส์กล่าวว่า บริษัทยังอยู่ในช่วงต้นของการมองหาพันธมิตรทางยุทศาสตร์เพื่อเร่งการเติบโตในตลาดจีน แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าความร่วมมือจะเป็นไปในรูปแบบใด

ทั้งนี้ สตาร์บัคส์มีการเปิดสาขาใหม่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นอีก 526 แห่ง ในไตรมาสที่ผ่านมา