กัมพูชาจัดใหญ่ วางศิลาฤกษ์ขุดคลองฟูนันเตโช

กัมพูชาจัดใหญ่ วางศิลาฤกษ์ขุดคลองฟูนันเตโช

กัมพูชาถือฤกษ์ 5 ส.ค.67 วันเกิดอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เป็นวันขุดคลองฟูนันเตโช นายกรัฐมนตรีฮุน มาแนต ประกาศให้เป็นวันหยุดราชการ ลั่นฆ้อง กลอง ระฆัง เฉลิมฉลองทั่วประเทศ

เว็บไซต์แขมร์ไทม์ส รายงานว่า คลองฟูนันเตโช เป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่ วัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการจัดการน้ำ การคมนาคม และการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาค การขุดคลองยังสะท้อนถึงก้าวย่างสำคัญในการพัฒนาของกัมพูชา เพื่อปรับโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย และเสริมสร้างขีดความสามารถทางการเกษตร

เพื่อเฉลิมฉลองพิธีขุดคลอง รัฐบาลประกาศให้วันนี้ (5 ส.ค.67 ) เป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่ พิธีเปิดจัดขึ้นที่หมู่บ้านปรักตาแก้ว ชุมชนสำโรงธม อ.เคียนสวาย จ.กันดาล คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน  โดยในเวลา 9.09 น. นายกฯ ฮุน มาแนต กดปุ่มเปิดงานก่อสร้าง ท่ามกลางเสียงลั่นฆ้อง กลอง ระฆังสนั่นทั่วประเทศ

นอกจากนี้ยังงานคอนเสิร์ตเฉลิมฉลองอีกสองงานที่เกาะเพชรในกรุงพนมเปญ และที่เมืองตาเขมา จ.กันดาล ทางการ จ.กันดาล เตรียมการแข่งขันมวยกุนขแมร์ ลบกกะตาว และศิลปะการต่อสู้อื่นๆ เฉลิมฉลองงานสำคัญครั้งนี้

คลองฟูนันเตโชความยาว 180 กิโลเมตร เริ่มจากคลองตาแก้วในแม่น้ำโขง ณ ชุมชนสำโรงธม อ.เคียนสวาย จ.กันดาล เชื่อมสู่แม่น้ำบาสัก อ.เกาะธม จ.กันดาล แล้วไหลผ่าน จ.กันดาล จ.ตาแก้ว จ.กัมปอต และ จ.แกบ ลงสู่ทะเลคาดว่ากว่าจะแล้วเสร็จใช้เงินสี่ปีงบประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์

เว็บไซต์พนมเปญโพสต์รายงาน เชต เชียลี อธิการบดีราชวิทยาลัยพนมเปญ กล่าวเมื่อวันที่ 31 ส.ค.67 ว่า โครงการขุดคลองฟูนันเตโชแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาติ เนื่องจากชาวกัมพูชาแทบทุกคนล้วนสนับสนุนโครงการ

"โครงการแสดงให้เห็นถึงเอกภาพอันยิ่งใหญ่ในหมู่ชาวขแมร์ยุคใหม่ (เรารู้ว่า) ชาวขแมร์แตกแยกกันหลังยุคอังกอร์ แบ่งแยกเป็นฝักฝ่ายสุดท้ายแล้วเป็นการแบ่งแยกรัฐบาลกับประชาชน ในเวลาต่อมาไม่ว่ารัฐบาลทำอะไร ประชาชนก็คิดว่าเป็นแค่การหาทางกดขี่พวกเขา โดยเฉพาะหลังยุครัฐบาลเขมรแดง

มิติที่โดดเด่นในสถานการณ์ปัจจุบันคือ คลองฟูนันเตโช ที่สะท้อนถึงนโยบายอันสมเหตุสมผลของรัฐบาล ประชาชนจึงสนับสนุนถ้วนหน้า นี่คือ สิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมของเราตอนนี้ และเราควรภาคภูมิใจ" นักวิชาการ กล่าว 

ด้านอัม สัม อัธ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของ Licadho ซึ่งเป็นเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวกับ cambojanews.com ว่า แม้โครงการได้รับความสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งเพราะเป็นผลประโยชน์แห่งชาติ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบก็ยังไม่ทราบเรื่องเงินชดเชย ทางการเองก็ยังไม่แจ้งถึงผลกระทบ และทางออก

เช่นเดียวกับริม สกวี นักวิจัยจากศูนย์กัมพูชาเพื่อภูมิภาคศึกษา กล่าวว่า คลองสายนี้จะให้ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ “มากที่สุด”  เมื่อเปิดใช้งาน  แต่รัฐบาลควรพิจารณาอย่างใกล้ชิดถึงผลกระทบต่อประชาชน และให้ข้อมูลที่ชัดเจน

“ผมคิดว่าถ้าเราทำโครงการแล้วส่งผลต่อประชาชนในพื้นที่ก็ควรปรึกษาพวกเขา การจ่ายค่าชดเชยไม่เพียงพอ รัฐบาลต้องสร้างหลักประกันว่าสถานที่ตั้งใหม่ที่จะให้ประชาชนย้ายไปอยู่ต้องสะดวกสบายในการใช้ชีวิต” นักวิจัยกล่าวสะท้อนถึงปัญหาการพัฒนาที่พบได้ในหลายประเทศ                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                  พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์