‘ดาบนั้นคืนสนอง’ ยูเครนผลักสงครามกลับรัสเซีย

เหมือนโลกจะลืมเลือนสงครามของรัสเซียในยูเครน จนกระทั่งล่าสุดกลายเป็นข่าวฮือฮาอีกครั้งเมื่อยูเครนบุกข้ามพรมแดนเข้าไปโจมตีในเขตรัสเซีย ปฏิบัติการครั้งนี้เหมือน “ดาบนั้นคืนสนอง” ที่เล่นเอาประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินถึงกับนั่งไม่ติด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ยูเครนเผยเมื่อวันจันทร์ (12 ส.ค.) ว่าการโจมตีข้ามพรมแดนครั้งใหญ่สุดของสงคราม ยึดพื้นที่ในภูมิภาคคูร์สกของรัสเซียได้ถึง 1,000 ตารางกิโลเมตร และด้วยสถานการณ์ดังกล่าวประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน จะถูกบีบให้ต้องสร้างสันติภาพ

ขณะนี้รัสเซียกำลังดิ้นรนขับไสทหารยูเครนให้ออกนอกประเทศ หลังจากถูกโจมตีแบบไม่คาดฝันเมื่อสัปดาห์ก่อน โอเล็กซานเดอร์ ซิร์สกี ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนสรุปเหตุการณ์ผ่านวีดิโอลิงค์ ให้ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ฟังว่า การรุกคืบเข้าสู่ดินแดนรัสเซียกำลังดำเนินอยู่

“เรากำลังปฏิบัติการรุกรบในภูมิภาคคูร์สกอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเราควบคุมดินแดนสหพันธรัฐรัสเซียได้ราว 1,000 ตารางกิโลเมตร” ผบ.กล่าวในคลิปซึ่งได้รับการเผยแพร่ผ่านบัญชีเทเลแกรมของเซเลนสกี

ผบ.ยูเครนไม่ได้เผยรายละเอียดอื่นๆ ยังเดินหน้ายุทธศาสตร์ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับการโจมตีตอบโต้เมื่อปีก่อนที่รู้ล่วงหน้านานหลายเดือนจึงล้มเหลวฝ่าแนวต้านของรัสเซียไม่ได้

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนการเปิดเผยของซิร์สกี อเล็กซี สเมอร์นอฟ รักษาการผู้ว่าราชการภูมิภาคคูร์สกของรัสเซีย ประเมินว่า กองกำลังเคียฟควบคุม 28 ชุมชน ในรัศมีลึกราว 12 กิโลเมตร ยาว 40 กิโลเมตร แม้ไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากที่ผบ. ยูเครนประเมิน แต่ความเห็นของสเมอร์นอฟเป็นการยอมรับต่อสาธารณะว่ารัสเซียเสื่อมถอยครั้งใหญ่ในรอบกว่า 29 เดือน นับตั้งแต่รุกรานยูเครน เพื่อนบ้านขนาดเล็กกว่าอย่างเต็มรูปแบบ

ไม่ว่าใครจะอ้างอย่างไร รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของทั้งสองฝ่ายได้

แต่สำหรับปูตินนั้นเรียกการโจมตีข้ามพรมแดนนี้ว่า “การยั่วยุครั้งใหญ่” มีเป้าหมายเพื่อยกระดับสถานะการเจรจาของรัฐบาลเคียฟ

ขณะที่เซเลนสกีชี้แจงประชาชนยูเครนผ่านแถลงการณ์ยามค่ำว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นเรื่องความมั่นคงของยูเครน ภูมิภาคคูร์สกถูกรัสเซียใช้เปิดการโจมตียูเครนหลายครั้ง ขณะที่ภูมิภาคซูมีทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับภูมิภาคคูร์สก ถูกรัสเซียโจมตีเกือบ 2,100 ครั้งตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นมา

“รัสเซียต้องถูกบีบให้สร้างสันติภาพ ถ้าปูตินต้องการสู้รบย่อยยับขนาดนี้” เซเลนสกีกล่าว

การโจมตีของยูเครนเกิดขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียรุกคืบทางภาคตะวันออกของยูเครนอย่างช้าๆ แต่ต่อเนื่องมานานหลายเดือน ทำให้กองทัพเคียฟเสียเปรียบเมื่อต้องต้านทานกับการถล่มด้วยระเบิดและการรุกหนักของทหารรัสเซีย

อันเดรย์ ซาโกรอดนียุก อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน เผยกับรอยเตอร์ว่า ปฏิบัติการคูร์สกดูเหมือนมีเป้าหมายเบี่ยงเบนความสนใจของกองทัพและผู้นำรัสเซียจากแนวรบตะวันออก