จีนน่าห่วง! ยอดสินเชื่อใหม่ ต่ำสุดในรอบ 15 ปี 'แบงก์ชาติจีน'มองเป็นเรื่องปกติ

จีนน่าห่วง! ยอดสินเชื่อใหม่ ต่ำสุดในรอบ 15 ปี 'แบงก์ชาติจีน'มองเป็นเรื่องปกติ

จีนน่าห่วง! ยอดสินเชื่อใหม่เดือนก.ค. อยู่ที่ 1.2 ล้านล้านบาท ร่วง 88% ต่ำสุดในรอบ 15 ปี ผู้ว่า 'แบงก์ชาติจีน'มองสินเชื่อชะลอตัวเป็นเรื่องปกติ นักวิเคราะห์คาดรัฐออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ตัวเลขการให้สินเชื่อใหม่หรือ (New yuan loans) ในเดือนก.ค.ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 15 ปี เนื่องจากความต้องการสินเชื่อที่อ่อนแอและปัจจัยตามฤดูกาล ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC)อาจออกมาตรการผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

PBOC เผยแพร่ข้อมูลเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ระบุว่าเดือนก.ค.ธนาคารจีนปล่อยสินเชื่อใหม่ในสกุลเงินหยวนมีมูลค่าเพียง 2.6 แสนล้านหยวน(ราว 1.2 ล้านล้านบาท) ลดลงเกือบ 88% จากเดือนมิ.ย.ที่ 2.13 ล้านล้านหยวน และต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์กว่าครึ่ง ที่  4.5 แสนล้านหยวน 

รอยเตอร์คำนวนตัวเลขสะสมตั้งแต่ต้นปีพบว่าในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ มีการปล่อยสินเชื่อใหม่รวมทั้งสิ้น 13.53 ล้านล้านหยวนเท่านั้น

หลังจากข้อมูลดังกล่าวถูกเปิดเผย นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าธนาคารกลางจีนอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก แต่ธนาคารกลางอาจต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันการไหลออกของเงินทุนและผลกระทบต่อค่าเงินหยวน

โจว ซือเล่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินโลกของยูโอบีในจีน มองว่าข้อมูลสินเชื่อเดือนก.ค.อ่อนแอมาก โดยมองว่าผลกระทบจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อนนั้นไม่รุนแรงนัก และยังมีความคาดหวังว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในอนาคต

สินเชื่อ'ครัวเรือน-ธุรกิจ’หดตัว

ผลสำรวจของธนาคารกลางจีนที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า ความต้องการสินเชื่ออ่อนตัวลงอย่างมากในไตรมาสที่ 2 โดยดัชนีความต้องการสินเชื่อโดยรวมลดลงเหลือ 55.1% จาก 71.5% ในไตรมาส 1 ปี 2567

สินเชื่อบ้านซึ่งเป็นส่วนสำคัญของสินเชื่อครัวเรือนนั้นหดตัวลง 2.1 แสนล้านหยวน นับเป็นการหดตัวครั้งใหญ่เมื่อเทียบกับการขยายตัวในเดือนมิ.ย.ที่ 5.7 แสนล้านหยวน 

รวมไปถึงสินเชื่อธุรกิจก็หดตัวลงเช่นกัน โดยลดลงจาก 1.63 ล้านล้านหยวนในเดือนมิ.ย.มาอยู่ที่ 1.3 แสนล้านหยวนในเดือนก.ค.

สินเชื่อชะลอตัว คือเรื่อง'ปกติ’

พาน กงเซิ่ง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่า การชะลอตัวของการขยายตัวของสินเชื่อในจีนเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และการลดการปล่อยสินเชื่อให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์และยานพาหนะการเงินของรัฐบาลท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนพลาดเป้าหมายในไตรมาสที่ 2 ขณะที่ตัวชี้วัดเศรษฐกิจเดือน ก.ค.ก็ไม่ค่อยน่าพอใจเช่นกัน เนื่องจากการส่งออกชะลอตัว และอัตราเงินเฟื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานอาหารจากปัญหาสภาพภูมิอากาศ

คาด PBOC ออกมาตรการกระตุ้นตลาดเงิน

ในการประชุมเมื่อต้นเดือนก.ค. PBOC หารือเกี่ยวกับนโยบายสำหรับครึ่งหลังของปี 2567 โดยระบุว่าจะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินต่อเศรษฐกิจโดยรวมและลดต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความตั้งใจที่จะใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

PBOC ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อระยะกลาง (MLF) อย่างไม่คาดคิดวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเร่งด่วนที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว  และในวันเดียวกันนั้น ธนาคารใหญ่ของรัฐบาลจีน 5 แห่ง ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายของธนาคารกลาง และมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจและครัวเรือน

อย่างไรก็ดี ความต้องการสินเชื่อภาคเอกชนยังคงอ่อนแอโดย แคปิตอล อีโคโนมิกส์ มองว่าการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของธนาคารกลางจีนยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้ภาคเอกชนต้องการกู้เงินมากขึ้นได้ และความต้องการสินเชื่อในภาคเอกชนยังคงอ่อนแอ

แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมหลัก (LPR) อีก 0.2% ในปีนี้ แต่มาตรการนี้ยังไม่เพียงพอที่จะผลักดันให้ความต้องการสินเชื่อฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องได้

M2  ส่งสัญญาณบวก

ในขณะที่การเติบโตของสินเชื่อชะลอตัว แต่ตัวเลขเงินทุน M2 ซึ่งสะท้อนถึงปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจกลับขยายตัว  6.3% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 6.1%  ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบวกที่บ่งบอกถึงสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจที่ยังคงแข็งแกร่ง

อ้างอิง Reuter