'อาลีบาบา' กำไรทรุด 27% ตลาดจีนยังซบ กดดันธุรกิจแข่งดุ

'อาลีบาบา' กำไรทรุด 27% ตลาดจีนยังซบ กดดันธุรกิจแข่งดุ

ยักษ์อีคอมเมิร์ซจีน 'อาลีบาบา' กำไรทรุด 27% ต่ำกว่าเป้าหมายของนักวิเคราะห์ รับตลาดจีนยังซบ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซแข่งดุ

บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง (Alibaba) ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน รายงานผลประกอบการไตรมาสเดือนเม.ย.- มิ.ย. ว่า บริษัทมีกำไรลดลง 27% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 2.43 หมื่นล้านหยวน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.7 หมื่นล้านหยวน ท่ามกลางการแข่งขันอย่างหนักในตลาด ขณะที่ผู้บริโภคในจีนทำการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง

บริษัทมีรายได้ 2.4324 แสนล้านหยวน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4905 แสนล้านหยวน และเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 4% เนื่องจากกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซในจีนหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบอย่างน้อยหนึ่งปี โดยรายรับที่มาจากอีคอมเมิร์ซในเครือเดียวกันอย่าง เถาเป่า (Taobao) และทีมอลล์ (Tmall) ปรับตัวลดลงเหนือความคาดหมาย 1%

บลูมเบิร์ก ระบุว่า เอ็ดดี้ อู๋ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของอาลีบาบา ซึ่งเข้ามาแทนที่แดเนียล จาง เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน เป็นผู้นำการยกเครื่องครั้งใหญ่ในบริษัท หลังจากที่ถูกรัฐบาลปักกิ่งเข้าจัดระเบียบอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในจีนตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนนวัตกรรม และการเติบโตของบริษัทนับตั้งแต่นั้นมา  

อู๋มุ่งเน้นการขับเคลื่อนไปที่ 2 ธุรกิจหลักคือ อีคอมเมิร์ซ และคลาวด์ คอมพิวติ้ง แต่ขณะเดียวกันก็ยังเดิมที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) สำหรับการเติบโตในระยะยาวด้วย อย่างไรก็ดี ซีอีโอย้ำความเชื่อมั่นกับนักลงทุนว่า ยังคงให้น้ำหนักกับผลกำไรเป็นเรื่องสำคัญ และพยายามทำให้หลายธุรกิจในเครือไปสู่จุดคุ้มทุนให้ได้ภายใน 1-2 ปีนี้ 

ทั้งนี้ กำไรที่ลดลงของอาลีบาบาซึ่งเป็นทั้งยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ และเป็นตัวชี้วัดกำลังซื้อของผู้บริโภคในจีน มีขึ้นสวนทางกับคู่แข่งในประเทศอย่าง "เจดีดอตคอม" (JD.com) ซึ่งรายงานกำไรไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นถึง 73.7% อยู่ที่ 9.36 หยวนต่อหุ้น สูงกว่าที่ LSEG คาดการณ์ไว้ที่ 6.07 หยวนต่อหุ้น 

ในขณะที่บริษัท PDD Holding ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมมิร์ซมาแรงอย่าง Pinduoduo และ Temu เพิ่งมีรายงานว่าผู้ก่อตั้งอย่าง ‘คอลิน หวง’ ขึ้นแท่นมหาเศรษฐีเบอร์ 1 จีน แซงหน้าเจ้าสัวบริษัทน้ำดื่มไปเรียบร้อยแล้วด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 48,600 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.7 ล้านล้านบาท)

"การแข่งขันยังคงเป็นประเด็นสำคัญสำหรับอาลีบาบา นักลงทุนบางรายอาจมีความคาดหวังสูงต่อการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมของอาลีบาบา เนื่องจากบริษัทเริ่มทดสอบเครื่องมือโฆษณาใหม่ในไตรมาสที่ผ่านมา แต่ตัวเลขจริงที่เราเห็นในผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่าความพยายามดังกล่าวอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล" ชอน หยาง นักวิเคราะห์จาก Arete Research กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์