อิหร่านว่าไง เรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐเข้าประจำการตะวันออกกลางสองลำ

กองบัญชาการกลางสหรัฐ (USCENTCOM) แถลงว่า กองเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น (CVN72) พร้อมด้วยเครื่องบินรบ F-35 เดินทางมาถึงภูมิภาคตะวันออกกลางแล้วเพื่อสมทบกับแสนยานุภาพของสหรัฐที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ธีโอดอร์ โรสต์เวลต์ (CVN71) ที่เข้ามาประจำการตั้งแต่กลางเดือนก.ค.

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ สั่งการให้เรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ย้ายจากอินโดแปซิฟิกมายังตะวันออกกลาง เมื่อวันที่ 2 ส.ค.67 ขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมการป้องกันอิสราเอลด้วยคาดว่าจะถูกอิหร่านโจมตี โดยในวันที่ 11 ส.ค.67 ออสตินเร่งให้เรือลินคอล์นมาถึงตะวันออกกลางโดยเร็ว

เรือลินคอล์นแล่นผ่านทะเลจีนใต้เข้าช่องแคบมะละกาใกล้สิงคโปร์ เมื่อวันศุกร์ (16 ส.ค.67) เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังมหาสมุทรอินเดีย และกองเรือที่ 5 ของสหรัฐ 

 เมื่อวันพุธ (21 ส.ค.67) โฆษก CENTCOM เผยผ่านโซเชียลมีเดีย

"เรือยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น (CVN 72) พร้อมด้วยเครื่องบินF-35C and F/A-18 Block III เข้าสู่พื้นที่รับผิดชอบของ CENTCOM แล้ว โดยยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น เป็นเรือธงของกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีที่ 3 มาพร้อมกับเรือพิฆาตSquadron (DESRON) 21 และกองบิน (CVW) 9)"

เท่ากับว่าขณะนี้สหรัฐมีเรือบรรทุกเครื่องบินอยู่ในตะวันออกกลางสองลำ อย่างน้อยๆ ก็ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเรือลินคอล์นจะเข้ามาแทนที่เรือธีโอดอร์ โรสต์เวลต์ ที่เข้ามาหนุนกองกำลังพิทักษ์ความมั่งคั่งตั้งแต่เดือนมิ.ย.

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์

นอกจากสั่งเรือลินคอล์นเปลี่ยนพื้นที่ประจำการเข้ามายังตะวันออกกลางแทนอินโดแปซิฟิก ออสตินยังสั่งให้เรือดำน้ำติดขีปนาวุธ “ยูเอสเอส จอร์เจีย” มายังตะวันออกกลางด้วย ซึ่งโดยปกติความเคลื่อนไหวของเรือดำน้ำสหรัฐยากที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะ

เพนตากอนแจ้งเรื่องเรือดำน้ำในกองบัญชาการกลางครั้งล่าสุดเมื่อเดือน พ.ย.2566 ไม่กี่สัปดาห์หลังฮามาสโจมตีอิสราเอลและสงครามในกาซาปะทุขึ้น

ระหว่างที่รอเรือดำน้ำยูเอสเอสจอร์เจียมาถึง สหรัฐมีเรือรบอยู่ในตะวันออกกลางอยู่แล้ว กองทัพเรือเผยว่า นับถึงเช้าวันพุธสหรัฐมีเรือพิฆาตแปดลำในตะวันออกกลาง ยังไม่รวมเรือที่จะมากับยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์นด้วย

คำสั่งระดมสรรพกำลังของสหรัฐเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากทั้งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลขานอนและอิหร่านประกาศเอาคืนอิสราเอล ซึ่งอิสราเอลยอมรับว่า โจมตีสังหารฟูอัด ชูกรี ผู้บัญชาการฮิซบอลเลาะห์ที่ชานกรุงเบรุตจริง แต่ไม่เคยยืนยันเรื่องการสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำฮามาส

ก่อนหน้านี้ในเดือน เม.ย. อิหร่านเคยแก้แค้นอิสราเอลมาแล้วครั้งหนึ่ง โทษฐานโจมตีสถานกงสุลในซีเรีย ด้วยการระดมขีปนาวุธและโดรนกว่า 300 ลูกเข้าใส่แต่ก็สร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากปฏิบัติการต้านทานอันแข็งขันของอิสราเอล สหรัฐ และพันธมิตรอื่นๆ ซึ่งเรือพิฆาตของกองทัพเรือสหรัฐอย่างยูเอสเอส คาร์นีย์มีส่วนร่วมสกัดไว้เช่นกัน

รอบนี้อิหร่านที่ขู่ว่าจะตอบโต้แต่ยังไม่ลงมือเสียที เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยกับซีบีเอสนิวส์ว่า การเจรจาหยุดยิงในกาซาช่วยชะลอการเอาคืนของรัฐบาลเตหะราน ด้วยกำลังพิจารณาว่าจะรับมืออย่างไร

เพนตากอนกล่าวว่า การที่สหรัฐส่งกำลังมาเพิ่มเติมก็เพื่อสนับสนุนอิสราเอลในกรณีถูกโจมตี และเตรียมการเผื่อเหตุการณ์บานปลาย