จีนอาจโตไม่ถึงเป้า 5%! UBS ปรับลดคาดการณ์ GDP เหลือ 4.6% ห่วงวิกฤติอสังหาฯ

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า UBS ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลง เนื่องจากมองว่า เป้าหมายการเติบโตของจีนที่ 5% ในปีนี้ ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากขึ้น เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัว และขาดการกระตุ้นหลักทางเศรษฐกิจจากรัฐบาล

ธนาคารสวิสคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัว 4.6% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.9% โดยมีโมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่ถูกลดทอนโดยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำของอสังหาริมทรัพย์และนโยบายการคลังที่เข้มงวด และสำหรับปี 2568 UBS คาดการณ์การเติบโตที่ 4% ลดลงจาก 4.6% ก่อนหน้านี้

“เราคาดว่ากิจกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนตัวลงจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงผ่านการบริโภคของครัวเรือน” นักเศรษฐศาสตร์ของ UBS ระบุ

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์หลายคนได้ “ปรับลด” การคาดการณ์สำหรับเศรษฐกิจมูลค่า 17 ล้านล้านดอลลาร์ของแดนมังกร หลังจากชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาสตั้งแต่เดือนเมษายน ถึงมิถุนายน ขณะที่ธนาคารอื่นๆ ที่ไม่เชื่อมั่นว่าปักกิ่งจะบรรลุเป้าหมายการเติบโต ได้แก่ JPMorgan Chase ซึ่งคาดการณ์การเติบโตที่ 4.6% เช่นกัน และ Nomura Holdings ซึ่งมีการคาดการณ์ที่ต่ำกว่าที่ 4.5%

“ความต้องการ และอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ของจีนได้เปลี่ยนแปลงไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความเชื่อมั่นของตลาดต่ำท่ามกลางการเติบโตของรายได้ครัวเรือนที่อ่อนแอ และระดับสินค้าคงคลังสูงในขณะที่การดำเนินการลดสต็อกช้า” นักเศรษฐศาสตร์ UBS ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

ยิ่งไปกว่านั้น การตกต่ำของอสังหาริมทรัพย์ของประเทศยังไม่เห็นสัญญาณของการกลับตัว การขายบ้านใหม่ลดลงเกือบ 20% ในเดือนกรกฎาคม จากปีที่แล้ว ในขณะที่ราคาบ้านมือหนึ่งลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดเป็นประจำปีในรอบเก้าปี การเริ่มต้นก่อสร้างบ้านใหม่ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในอัตราประมาณ 20% ซึ่งวิกฤติดังกล่าวได้ลากทุกอย่างลงมาตั้งแต่ตลาดแรงงานไปจนถึงการบริโภค และความมั่งคั่งของครัวเรือนในช่วงสองปีที่ผ่านมา

หวัง เหยียน นักยุทธศาสตร์ของ Alpine Macro ซึ่งเพิ่งกลับจากการเดินทางไปจีน อธิบายเป้าหมายการเติบโต 5% ของรัฐบาลว่า “แทบจะเป็นไปไม่ได้” ที่จะบรรลุ และเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นของ “การระเบิดอย่างช้า ๆ” ข้างหน้า

หวังกล่าวต่อว่า ผู้กำหนดนโยบายขาดกลยุทธ์ที่ชัดเจน และสอดคล้องกันในการแก้ไขปัญหา พร้อมเสริมว่าแม้แต่ “มาตรการแบบเฉพาะกิจ” ที่กำลังดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาความต้องการก็เป็นแบบเฉพาะกิจ และลังเล

ทั้งนี้ เหล่านักเศรษฐศาสตร์จีนจำนวนมากได้เรียกร้องให้ปักกิ่งตั้งงบขาดดุลเพิ่มในปีนี้ เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลกลางกู้ยืมมากขึ้นเพื่อช่วยเศรษฐกิจ

อ้างอิง: Bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์