'KFC - McDonald’s - ไหตี่เลา' มุ่งเปิดสาขาขนาดเล็กในจีน รับมือแข่งขันสูง-บริโภคชะลอตัว

'KFC - McDonald’s - ไหตี่เลา' มุ่งเปิดสาขาขนาดเล็กในจีน รับมือแข่งขันสูง-บริโภคชะลอตัว

เคเอฟซี แมคโดนัลด์ และไหตี่เลา เดินหน้ากลยุทธ์เปิดสาขาขนาดเล็กในจีนเพิ่ม เพราะมองว่าประหยัดต้นทุน ทำกำไรได้ดี หวังเจาะกลุ่มคนท้องถิ่นมากขึ้น ท่ามกลางการบริโภคชะลอตัว ผู้คนรัดเข็มขัดการใช้จ่าย และการแข่งขันธุรกิจร้านอาหารดุเดือด

ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคจีนรัดเข็มขัดการใช้จ่าย และตลาดธุรกิจอาหารแข่งขันสูงขึ้น เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่ รวมถึงร้านอาหารจีน ต่างต้องเดินหน้ากลยุทธ์ใหม่เพื่อลดต้นทุน และเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

ทอมมี จาง นักวิจัยทางการแพทย์ในเซินเจิ้น เผยว่า ในระหว่างเดินทางเข้าเมืองไปมหาวิทยาลัย พบคนต่อแถวยาวหน้าร้านเคเอฟซี (KFC) รอซื้ออาหารเช้าพร้อมทานในราคา 15 หยวน (ประมาณ 70 บาท)

เคเอฟซี เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่บริหารโดยยัม ไชนา โฮลดิงส์ ในจีนนั้น เดินกลยุทธ์จำหน่ายชุดอาหารเช้าพร้อมทานเพื่อลดเวลารออาหารของลูกค้า ซึ่งจางสังเกตได้ว่าชุดอาหารเช้าดังกล่าวได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานละแวกใกล้เคียง

ขณะที่เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่อีกแบรนด์อย่าง “แมคโดนัลด์” ก็ได้รับความนิยมจากการตั้งแผงหรือเปิดร้านฟู้ดทรัคจำหน่ายอาหารพร้อมทานเช่นกัน ซึ่งนอกจากตั้งร้านตามสถานีรถไฟใต้ดิน ตามถนนหนทาง และสวนสาธารณะในเมืองต่าง ๆ อย่างกรุงปักกิ่ง กว่างโจว และฉางชาแล้ว ยังได้รับกระแสนิยมมาจากในโซเชียลมีเดียเสี่ยว หง ชู (Xiaohongshu) ด้วย

การเดินหน้ากลยุทธ์ตั้งแผงจำหน่ายอาหารจานด่วนของสองแบรนด์นี้ ตอกย้ำถึงการแข่งขันสูงของเชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เคเอฟซี และแมคโดนัลด์ เพื่อแย่งชิงรายได้จากการใช้จ่ายของลูกค้า

จากคาดการณ์ของ iiMedia Research พบว่า ตลาดบริการอาหารฟาสต์ฟู้ดตะวันตกในจีนอาจโตแตะ 4.28 ล้านล้านหยวนภายในปีหน้า

ณอน ดันล็อบ นักวิเคราะห์หุ้นอาวุโสจากมอร์นิงสตาร์ บอกว่า ร้านอาหารขนาดเล็กเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ "การเติมเต็มพื้นที่การค้า" (backfilling) ที่ความต้องการหรืออุปสงค์เพียงพอที่จะสนับสนุนร้านค้าขนาดปกติ นอกจากนี้ ทำเลที่ตั้งร้านขนาดเล็กมีค่าก่อสร้างที่ถูกว่า แม้ยอดขายต่อร้านต่ำกว่าสาขาขนาดทั่วไป แต่อาจทำกำไรได้ดี ในแง่ของกำไรจากการดำเนินงานและได้รับผลตอบแทนได้รูปของเงินสด

แม้ร้านค้าขนาดเล็กเหล่านี้เป็นเพียงปัจจัยที่สร้างรายได้ให้เชนร้านอาหารเพียงเล็กน้อย แต่ร้านค้ารูปแบบนี้มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนสำหรับตลาดในประเทศจีนที่มีการแข่งขันสูง ท่ามกลางช่วงเวลาที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับความคุ้มค่า และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลง

ในการประกาศผลประกอบการไตรมาสสอง ยัม ไชนา เผยว่า นวัตกรรมในโมเดลร้านค้าใหม่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว บริษัทยังได้เตรียมเปิดสาขาในเมืองรองหลายแห่ง ด้วยร้านค้าขนาดเล็ก ซึ่งใช้ทุนสร้างต่ำกว่า 500,000 หยวน หรือน้อยกว่าต้นทุนโดยเฉลี่ยของสาขาขนาดทั่วไป 50%

ขณะที่แม็คโดนัลด์ก็มีแผนขยายร้านขนาดเล็กเช่นกัน และตั้งเป้ามีสาขา 10,000 แห่งในจีน ภายในสิ้นปี 2571 จากราว 6,000 สาขาในปัจจุบัน

ไหตี่เลา เชนร้านอาหารหม้อไฟจีนก็เดินกลยุทธ์เปิดสาขาขนาดเล็กเช่นกัน ปัจจุบันมาสาขาราว 200 ในจีนแผ่นดินใหญ่ และรายได้ของสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 15% ในไตรมาสล่าสุด บริษัทวางแผนตั้งร้านจำหน่ายอาหารเพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการในยามดึก และเพิ่มสาขาร้านอาหารหม้อไฟราคาประหยัดในตามเมืองรองระดับเทียร์สามและสี่

ข้อมูลของยูโรมอนิเตอร์ ระบุ ตลาดธุรกิจอาการข้างทางและการตั้งแผงจำหน่ายอาหารสร้างรายได้ 331,000 ล้านหยวนเมื่อปีก่อน หลังเจ้าหน้าที่ยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ตามร้านค้าริมถนน เพื่อกระตุ้นการจ้างงานและการบริโภค และคาดว่าตลาดนี้จะโตแตะ 506,000 ล้านหยวนภายในปี 2571 จากแรงหนุนของเชนร้านอาหาร

ตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการแม็คคินซีย์ เผยว่า มณฑลหลายแห่งของจีนในเมืองรอง ที่มีประชากรราว 748 ล้านคนหรือราว 53% ของประชากรจีนในปี 2563 จะมีส่วนหนุนการเติบโตของการบริโภคส่วนบุคคลของชาติราว 2 ใน 3 ภายในปี 2573

เอมิล ฟาซิรา ผู้จัดการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกด้านอาหารแห่งเอเชีย บอกว่า ผู้บริโภคให้ความสนใจต่อคุณค่าของประสบการณ์และความสะดวกสบายของร้านริมทางมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นทิศทางหลักที่ร้านอาหารหลายแห่งนำไปใช้ เพื่อหนุนธุรกิจเติบโตยิ่งขึ้น

สำหรับยัม ไชนา เจ้าของเคเอฟซีในจีน มีรายได้มากเป็นประวัติการณ์ที่ 2,700 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสสอง โดยมียอดขายในสาขาเดิมเพิ่มขึ้น 4% และยอดขายในสาขาใหม่เติบโต 8%

 

อ้างอิง : South China Morning Post