‘อินเดีย-สิงคโปร์’ ลงนามข้อตกลงด้านชิป จับมือยกระดับเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า “นเรนทรา โมดี” นายกรัฐมนตรีของอินเดีย พบกับ “ลอว์เรนซ์ หว่อง” นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ในวันนี้ (5 ก.ย.) ในระหว่างการเยือนสิงคโปร์เป็นเวลา 2 วัน ซึ่งทั้งสองได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับ เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในด้านเซมิคอนดักเตอร์และเทคโนโลยีดิจิทัล

สำหรับความเห็นของโมดีในระหว่างพบปะกับหว่อง โมดีกล่าวว่า “สิงคโปร์ไม่ใช่เพียงหุ้นส่วน แต่เป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกประเทศที่กำลังพัฒนา เราต้องการสร้างสิงคโปร์หลายแห่งในอินเดีย และผมยินดีที่เรากำลังพยายามร่วมมือกันในทิศทางนี้” 

ทั้งสองประเทศลงนามบันทึกความเข้าใจสี่ฉบับเพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาทักษะ และการดูแลสุขภาพ ตามที่รัฐบาลอินเดียระบุ

ในด้านการผลิตชิป สิงคโปร์จะสนับสนุนอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตของอินเดีย ในขณะที่อินเดียจะส่งเสริมการเข้ามาของบริษัทสิงคโปร์ และการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานในตลาดขนาดใหญ่ของตน

สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้อย่างสิงคโปร์ มีประสบการณ์หลายสิบปีในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ แม้จะมีพื้นที่เล็กและต้นทุนการดำเนินงานสูง แต่ในปัจจุบัน สิงคโปร์ครองสัดส่วน 10% ของอุปทานผลิตชิปทั่วโลก และประมาณ 20% ของการผลิตอุปกรณ์ที่ใช้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์

“สิงคโปร์เชื่อมต่อกับระบบนิเวศเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกได้อย่างดีมาก นี่เป็นพื้นที่ที่เรามีความกระตือรือร้นที่จะเข้าไป” เจดีป มาซูมดาร์ เลขาธิการของกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนการเยือนของโมดี

ราช คูมาร์ ชาร์มา นักวิจัยอาวุโสที่ NatStrat องค์กรวิจัยด้านความมั่นคงและนโยบายต่างประเทศในนิวเดลี ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดียกับสิงคโปร์เป็น “เสาหลักทางเศรษฐกิจที่สำคัญ” ซึ่งเป็นส่วนกลางของนโยบาย “Act East” ของอินเดีย อันหมายถึง ความพยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยมีอาเซียนเป็นแกนกลาง

“เซมิคอนดักเตอร์ ไฮโดรเจนสีเขียว การผลิตขั้นสูง การเชื่อมต่อดิจิตอล รวมถึงการเชื่อมต่อทางอากาศและทางทะเล กำลังเกิดขึ้นเป็นพื้นที่ใหม่ของความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่าย” ชาร์มากล่าว

ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 6 ของอินเดีย และรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน โดยในปีงบประมาณไตรมาสหนึ่ง การค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศอยู่ที่ 35,600 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่สิงคโปร์เป็นแหล่งเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดของอินเดีย ที่ 11,770 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 27% ของทั้งหมด

อ้างอิง: nikkei