'มอร์แกน สแตนลีย์' ลดคาดการณ์น้ำมันโลกรอบสอง เชื่อสต็อก 'ล้นถึงปีหน้า'
ธนาคาร 'มอร์แกน สแตนลีย์' ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ลงเป็นรอบที่สอง เหลือ 75 ดอลลาร์/บาร์เรล สอดคล้องความเห็นเดียวกันกับ 'โกลด์แมน แซคส์ - ซิตี้ กรุ๊ป' เชื่อสต็อกน้ำมันโลกยังล้นต่อจนถึงปีหน้า
ธนาคาร มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ปรับลดคาดการณ์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลงมาอยู่ที่ระดับ 75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์เต็มไปด้วยความท้าทายที่กดดันอุปสงค์ ประกอบกับปัจจัยสต็อกน้ำมันที่ยังล้นเกินความต้องการ ซึ่งนับเป็นการปรับลดคาดการณ์ราคาลงเป็น "ครั้งที่สอง" ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
ทีมนักวิเคราะห์ที่นำโดยมาร์ติน รัตส์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ จะเคลื่อนไหวเฉลี่ยที่ 75 ดอลลาร์ในช่วงระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค.ปีนี้ ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา มอร์แกน สแตนลีย์ เพิ่งจะปรับลดราคาลงมาจากคาดการณ์ดิมที่ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนคาดการณ์ราคาในปีหน้า 2568 นั้น สำนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ต่างก็ปรับราคากันลดลงเล็กน้อยเช่นกัน
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงเกือบ 10% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเคลื่อนไหวที่ราคาประมาณเกือบ 72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันนี้ (9 ก.ย.67)
บลูมเบิร์ก ระบุว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เนื่องจากตลาดมีความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับอุปสงค์ที่อ่อนแอของ "จีน" ประกอบกับสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจกำลังชะลอตัว
ในขณะเดียวกัน ผลผลิตน้ำมันยังคงมีมากเพียงพอ จนทำให้กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่และชาติพันธมิตร หรือ โอเปกพลัส (Opec+) ต้องเลื่อนแผนการที่จะเพิ่มกำลังการผลิตออกไปก่อน
การปรับลดคาดการณ์ราคาเป็นครั้งที่สอง ยังสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์หลายสำนักออกมาทยอยปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันกันในช่วงนี้ เช่น "โกลด์แมน แซคส์" ที่เพิ่งลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้าลง 5 ดอลลาร์ อยู่ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากปัจจัยอุปสงค์ที่ลดลง สวนทางอุปทานที่เพิ่มขึ้น
ในขณะที่ "ซิตี้กรุ๊ป" ระบุว่า ปริมาณน้ำมันที่อยู่ในภาวะโอเวอร์ซัพพลายในขณะนี้จะกดดันราคาไปจนถึงปี 2568 โดยอาจเห็นราคาน้ำมันร่วงลงไปแตะ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีหน้า หากกลุ่มโอเปกพลัสยังไม่ลดการผลิตหรือดำเนินมาตรการใดๆ เพิ่มเติม
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์