‘อินเดีย‘ จ่อเก็บภาษีท่อเหล็กจาก ‘จีน - เวียดนาม’ สูงสุด 30% นาน 5 ปี

‘อินเดีย‘ จ่อเก็บภาษีท่อเหล็กจาก ‘จีน - เวียดนาม’ สูงสุด 30% นาน 5 ปี

‘อินเดีย’ เตรียมเก็บภาษีท่อเหล็กนำเข้าจาก ‘จีน - เวียดนาม’ สูงสุด 30% นาน 5 ปี พร้อมสอบกรณีเหล็กเวียดนามทุ่มตลาด ปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ

สำนักข่าวนิกเคอิเอเชียรายงานว่ากระทรวงการคลังของ “อินเดีย” จะจัดเก็บภาษีสำหรับผลิตภัณฑ์เหล็กบางประเภทที่นำเข้าจากจีน และเวียดนามตั้งแต่ 12% ถึง 30% เพื่อปกป้อง และส่งเสริมอุตสาหกรรมในประเทศ 

รัฐบาลอินเดียได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 10 กันยายน ที่ผ่านมา กำหนดให้สินค้าท่อ และท่อเหล็กกล้าไร้สนิมที่ผลิตจากประเทศจีน และเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ของโลก จะต้องเสียภาษีนำเข้าเป็นระยะเวลา 5 ปีต่อจากนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างอินเดีย และจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ได้ตึงเครียดขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศบริเวณชายแดนหิมาลัยที่เป็นข้อพิพาทในปี 2563 เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลอินเดียทบทวนนโยบายต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์กับจีน จากนั้นรัฐบาลนิวเดลีได้เข้มงวดการตรวจสอบการลงทุนของจีน และระงับโครงการสำคัญต่างๆ

อย่างไรก็ดี สุบราห์มันยัม ไจชังการ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ได้ออกมาชี้แจงสถานการณ์ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างอินเดีย และจีน โดยยืนยันว่าอินเดียไม่ได้ปิดกั้นการทำธุรกิจกับจีน แต่พร้อมพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจีนจะเข้ามาลงทุนในภาคส่วนใด และภายใต้เงื่อนไขใด

ขณะเดียวกัน รัฐบาลอินเดียเริ่มการสอบสวนการทุ่มตลาดในเดือนสิงหาคม ในผลิตภัณฑ์เหล็กบางประเภทที่นำเข้าจากเวียดนาม

ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” พบกับผู้นำคนใหม่ของเวียดนาม “โต เลิม” ที่ปักกิ่งเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าจีนมีความกระตือรือร้นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ เนื่องจากการค้า และการลงทุนเติบโตขึ้น แม้ว่าจะเกิดการปะทะกันเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับเขตแดนในทะเลจีนใต้ก็ตาม

อ้างอิง Nikkei 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์