ยอดดับน้ำท่วมเมียนมาพุ่ง อาสาสมัครเร่งเข้าช่วยเหลือ

ยอดดับน้ำท่วมเมียนมาพุ่ง อาสาสมัครเร่งเข้าช่วยเหลือ

อาสาสมัครเร่งเข้าไปในพื้นที่น้ำท่วมของเมียนมา ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากไต้ฝุ่นยางิเพิ่มกว่าสองเท่า พื้นทางห่างไกลรายงานตัวเลขเพิ่มขึ้นไม่หยุด

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน น้ำท่วมและดินถล่มหลัง พายุไต้ฝุ่น ยางิ คร่าชีวิตประชาชนใน เมียนมา ลาว เวียดนาม และไทยเกือบ 350 คน

ที่เมียนมา ชายคนหนึ่งซึ่งทำงานกับเอ็นจีโอท้องถิ่นเผยกับเอเอฟพีถึงความพยายามใช้เชือกเข้าช่วยเหลือผู้คนในพื้นที่น้ำท่วมสูงสี่เมตรในเมืองกะลอว์ รัฐฉาน เมื่อวันที่ 10 ก.ย.

“กระแสน้ำแรงมาก แม้แต่อาคาบางหลังก็ถูกน้ำทำลาย ” ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ถูกนำพัดล่องลอยมาตามถนน

“ผมเห็นจากที่ไกลๆ หลายครอบครัวติดน้ำท่วมอยู่บนหลังคาบ้าน ได้ยินว่ามีศพ 40 ศพในโรงพยาบาล” ชายเอ็นจีโอกล่าว

นักธุรกิจหญิงคนหนึ่งในย่างกุ้งที่มีบริษัทในกะลอว์ เล่าว่าพนักงานที่นั่นรายงานว่า มีคนเสียชีวิตในกะลอว์เกือบ 60 คน

ด้าน รัฐบาลทหารเมียนมา ไม่ได้ระบุว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิต 74 คนที่รายงานไปนั้นอยู่ในกะลอว์เป็นจำนวนเท่าใด

บริเวณทะเลสาบอินเล แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ชายคนหนึ่งกล่าวว่า ห่างออกไปราว 30 กิโลเมตรน้ำขึ้นสูงถึงบ้านชั้นสอง บางพื้นที่ “จมน้ำทั้งหมู่บ้าน”

“คนเฒ่าคนแก่บอกว่าน้ำท่วมสูงสุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็น” อาหารทั้งข้าวทั้งเกลือหายหมด

“น้ำดื่มก็ไม่มี ตอนนี้ชาวบ้านต้องดื่มน้ำฝน”

ภาพถ่ายของเอเอฟพีแสดงให้เห็นระดับน้ำสูงท่วมบ้านไม้ริมทะเลสาบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถยนต์และรถบรรทุกขนอาสาสมัครจำนวนมากจากย่างกุ้งมุ่งหน้าขึ้นเหนือไปยังพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายในเมืองตองอู ภูมิภาคพะโค และรอบเมืองหลวงเนปิดอว์

บนรถเต็มไปด้วยลังน้ำดื่ม กองเสื้อผ้า อาหารแห้ง บางคันบรรทุกเรือบนหลังคาด้วย

“เราอยากช่วยเหลือทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือในเวลานี้ ก็เลยจัดการไปยัง พื้นที่น้ำท่วม เอาอาหาร น้ำ และเสื้อผ้าไปให้” ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปเมืองตองอูกล่าว

ประชาชนระทมหนัก

น้ำท่วมยิ่งทำให้ชาวบ้านเมียนมาระทมหนัก นับตั้งแต่ทหารยึดอำนาจในปี 2021 ชาวเมียนมาต้องพลัดที่นาคาที่อยู่ไปแล้วหลายล้านคน

ตัวเลขทางการเมื่อเย็นวันศุกร์ (13 ก.ย.) เผยว่า ประชาชนอย่างน้อย 74 คน เสียชีวิตจากอุทกภัย สูญหายอีก 89 คน ไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 235,000 คน แต่เนื่องจากถนนและสะพานขาด โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตใช้การไม่ได้ ข้อมูลที่ได้รับจึงมีจำกัด

ล่าสุดสื่อทางการรายงานว่า แม่น้ำสะโตง และ แม่น้ำพะโค ที่ไหลผ่านภาคกลางและภาคใต้ของประเทศ ยังคงอยู่ในระดับอันตราย แม้คาดว่าน้ำจะลดภายในเวลาไม่กี่วันนี้ก็ตาม

ในภาคตะวันออก แม่น้ำตันละวิน ในเมืองผาอันสูงกว่าระดับอันตรายเกินสองเมตร เมื่อวันเสาร์

ในวันเดียวกันนั้นรัฐบาลทหารเมียนมาขอความช่วยเหลือจากต่างชาติเพื่อรับมือน้ำท่วม ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเคยสกัดหรือไม่ยินดีกับความช่วยเหลือมนุษยธรรมจากต่างชาติ