ยุโรปต้องเฝ้าระวังภัยพิบัติต่อเนื่อง หลังน้ำยังคงท่วมสูง

ยุโรปต้องเฝ้าระวังภัยพิบัติต่อเนื่อง หลังน้ำยังคงท่วมสูง

ยุโรปยังไม่พ้นวิกฤติ ต้องเฝ้าระวังภัยพิบัติต่อเนื่อง เพราะระดับน้ำในบางพื้นที่ของตอนกลางยุโรปยังคงสูง และพื้นที่บางแห่งอาจเสี่ยงเผชิญน้ำท่วม

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ฝนตกหนักจากพายุบอริสเริ่มอ่อนลงในวันนี้ แต่ระดับน้ำในแหล่งน้ำยังคงสูงในหลายพื้นที่ทั่วทั้งภูมิภาคยุโรปตอนกลาง

ออสเตรียกำลังจับตาภัยคุกคามจากหิมะละลายและดินถล่ม หลังจากอากาศหนาวเย็นที่เคลื่อนตัวช้าทำให้แถวเทือกเขาแอลป์มีฝนตกหนัก ขณะที่ในสาธารณรัฐเช็ก ทางการกำลังจับตาดูความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในเมืองออสตราวาทางตอนเหนือ และพื้นที่ภาคใต้ของประเทศ ส่วนฮังการีและสโลวาเกีย ประกาศเตือนภัยน้ำท่วมระดับสีแดง

เมืองวรอตซวาฟ ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโปแลนด์ อาจเจอกับภัยพิบัติในสัปดาห์นี้เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ น้ำท่วมยังทำให้ออสเตรีย เช็ก และโรมาเนียต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน และประชาชนหลายพันคนต้องอพยพหนีน้ำ 

ด้านโดนัลด์ ทัสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิกฤติในช่วงเช้า หลังประชาชนในเมืองไนซา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศได้รับคำสั่งให้อพยพท่ามกลางความกังวลว่าคันดินกั้นทะเลสาบอาจพังทลาย และว่าน้ำท่วมจากเพื่อนบ้านสาธารณรัฐเช็กจะไหลเข้าทางตอนใต้ของโปแลนด์

บลูกเบิร์กระบุ น้ำท่วมทำให้ระบบขนส่งและการจัดหาพลังงานหยุดชะงักในหลายเมือง หลายหมู่บ้านถูกตัดขาดจากภายนอก และประชาชนในภูมิภาคเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย

 

ทั้งนี้ ปัจจัยที่เร่งให้เกิดพายุรุนแรงทั่วยุโรป มาจากคลื่นความร้อนที่แผดเผาแถบเมดิเตอร์เรเนียนในฤดูร้อนนี้ที่ทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลเพิ่มขึ้นเป็นวัติการณ์ และพายุที่รุนแรงเป็นอีกสัญญาณที่บ่งบอกว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้เหตุการณ์ด้านสภาพอากาศเลวร้ายมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและเกิดบ่อยครั้งมากขึ้น

ขณะที่ภัยพิบัติน้ำท่วมสร้างความเสียหายในยุโรปตอนกลาง ประเทศกรีซยังคงเผชิญกับไฟป่า

วาซิลิส คิกิเลียส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการป้องกันพลเรือนของกรีซ บอกว่า ฤดูนี้เกิดไฟป่าไปแล้วราว 4,500 ครั้ง ด้วยภัยพิบัติจากไฟป่าและสภาพอากาศรวมกันทำให้ช่วงนี้ถือว่ามีสภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี