‘สหราชอาณาจักร-ไทย’ลงนามข้อตกลงการค้ากระตุ้นการส่งออก

 สหราชอาณาจักรและไทยร่วมลงนามการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น (ETP) เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างสองประเทศ  เมื่อวันพุธ (18 ก.ย.) โดยนายดักลาส อเล็กซานเดอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธุรกิจและการค้า รับผิดชอบกิจการนโยบายการค้า  ลงนามในข้อตกลงร่วมกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ส่วนหนึ่งของการเยือนเอเชียครั้งแรกนับตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งในเดือนกรกฎาคม

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประชากร 70 ล้านคน และมีผู้บริโภคชั้นกลางราว 45 ล้านคน การค้าระหว่าง สหราชอาณาจักรและไทยมีมูลค่าปีละ 6 พันล้านปอนด์ หรือราว 252,000 ล้านบาท การร่วมมือกับไทยจะเป็นการสร้างโอกาสให้ธุรกิจ สหราชอาณาจักร

การลงนามความเป็นหุ้นส่วนใหม่มีขึ้นเพื่อกระตุ้นการค้าขายและการลงทุนในภาคที่มีความสำคัญทั้งในตลาดต่างๆ เช่น ยานยนต์ การท่องเที่ยว การลงทุน การค้าดิจิทัล บริการทางการเงิน การศึกษา และอื่น ๆ ข้อตกลงนี้สามารถปูทางไปสู่การแสวงหาข้อตกลงการค้าในอนาคตกับไทย

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกับแผนงานในการบรรลุการเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้น และจะหารือกันในการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าพร้อมผู้เข้าร่วมระดับรัฐมนตรีในครั้งถัดไป

ภายหลังจากการลงนาม 

“การเติบโตของเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของอาเซียนอย่างไทยสร้างโอกาสอย่างมหาศาลให้กับสหราชอาณาจักร ความเป็นหุ้นส่วนนี้จะทำให้ทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันมากขึ้น และช่วยให้ธุรกิจของสหราชอาณาจักรค้าขายกับประเทศไทยได้ และสร้างการจ้างงานและการเติบโตให้เกิดขึ้นทั่วประเทศ” นายอเล็กซานเดอร์กล่าว 

นายมาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในหลากหลายด้าน จากการลงนามในแผนงานหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่าง สหราชอาณาจักรกับไทยเมื่อต้นปีนี้ การลงนามความเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่แน่นแฟ้นในวันนี้ เป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์ที่ขยายเพิ่มขึ้น ที่จะช่วยกระตุ้นการค้าและการลงทุน สร้างการเติบโต และความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ 

ในระหว่างการเยือนภูมิภาค นายอเล็กซานเดอร์จะเดินทางต่อไปที่ประเทศลาวเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน ครั้งที่ 56 โดยจะใช้การเยือนนี้เพื่อพูดคุยกับหุ้นส่วนจากทั่วภูมิภาคเกี่ยวกับแผนการค้าของรัฐบาลสหราชอาณาจักร และว่าแผนการนี้จะส่งเสริมการเติบโตอย่างทั่วถึง