‘ศรีลังกา’ จัดเลือกตั้งครั้งแรก หลังประท้วงขับไล่ประธานาธิบดี
ชาวศรีลังกาพากันออกไปโหวตเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ ในการเลือกตั้งครั้งแรก นับตั้งแต่เกิดเหตุประท้วงครั้งใหญ่ จากวิกฤติเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุด จนทำให้ผู้นำพ้นตำแหน่งในปี 2565
การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งทั่วไปศรีลังกา จัดขึ้นในวันเสาร์ (21 ก.ย.) ถือเป็นการลงประชามติที่สำคัญต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจ มุ่งหวังผลักดันการเดินหน้าการฟื้นฟูประเทศ
ประชาชนศรีลังกา ยังคงดิ้นรน เพื่อหารายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต เนื่องจากการขึ้นภาษี รวมถึงการตัดเงินสนุบสนุนและสวัสดิการรัฐ
นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า ความกังวลทางเศรษฐกิจศรีลังกาได้เป็นประเด็นสำคัญอันดับแรกของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในการแข่งขันชิงประธานาธิบดีที่ขับเคี่ยวกันอย่างสูสี
นักวิจัยสถาบัน Observer Research Foundation ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอินเดียกล่าวกับบีบีซีว่า “เงินเฟ้อศรีลังกา ที่พุ่งสูงขึ้น ค่าของชีพที่เพิ่มอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสถานการณ์ความยากจน ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสิ้นหวังจะหาทางออก เพื่อรักษาระดับคุณภาพชีวิตให้คงที่”
หนึ่งในผู้ชิงชัยคือ รานิล วิกรมสิงเห วัย 75 ปี ประธานาธิบดีศรีลังกา กำลังหาเสียงหวังอยู่ในตำแหน่งต่ออีกสมัย ซึ่งเมื่อสองปีก่อน วิกรมสิงเหได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐสภา หนึ่งสัปดาห์ภายหลังจากอดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ถูกขับพ้นตำแหน่ง
บีบีซีรายงานว่า หลังวิกรมสิงเหเข้ารับตำแหน่งไม่นาน ก็ได้ปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่ยังคงเคลื่อนไหว ทั้งนี้เขาถูกกล่าวหาว่าปกป้องครอบครัวราชปักษาจากการถูกดำเนินคดี ซึ่งวิกรมสิงเหได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอด
ขณะที่ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีศรีลังกาที่น่าจับตามองอีกคนคือ นักการเมืองฝ่ายซ้าย อนุรา กุมารา ดิสซานายาเก ได้ชูนโยบายต่อต้านการทุจริต ซึ่งทำให้เขาได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามการชิงชัยครั้งนี้ มีผู้สมัครจำนวนมากกว่าครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของศรีลังกา หรือประมาณ 30 คน แต่จะมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ
นอกจากวิกรมสิงเหและดิสซานายาเกแล้ว ยังมีผู้นำฝ่ายค้านอย่างซาจิด เปรมทาสา และหลานชายของอดีตประธานาธิบดีนามาล ราชปักษา วัย 38 ปี
การนับคะแนนผลการเลือกตั้งจะเริ่มขึ้นหลังปิดหีบลงคะแนนแล้วในเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ของวันนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังไม่ทราบผลเลือกตั้งที่ชัดเจนไปจนกว่าจะถึงเช้าวันอาทิตย์