เลือกตั้งสหรัฐเปิดช่อง อิสราเอลถล่มหนักกาซา - เลบานอน

เลือกตั้งสหรัฐเปิดช่อง  อิสราเอลถล่มหนักกาซา - เลบานอน

นักวิเคราะห์สายตะวันตกต่างชี้ว่า สหรัฐไร้บารมีในการกดดันให้อิสราเอล และกองกำลังติดอาวุธฮามาสหยุดสงครามในฉนวนกาซา และการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

สำนักข่าว CNN ออกบทวิเคราะห์ว่า รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประสบกับความอับอายขายหน้าอย่างมากที่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถผลักดันให้มีการหยุดยิงในทั้งสองสมรภูมิรบได้

ไบเดน ซึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศกำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งพร้อมกับชื่อเสียงที่เสียหาย

ภาพพจน์ของมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลก และผู้นำโลกอย่างไบเดนเสียหายหนักเพราะสงครามกาซา มีพลเรือนชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สงครามเปิดฉากขึ้นมาตั้งแต่ 7 ต.ค.67 ปีที่แล้ว เมื่อกลุ่มฮามาสบุกเข้าไปในประเทศอิสราเอล และสังหารคนไปประมาณ 1,200 ศพ พร้อมจับตัวประกันไปจำนวนหนึ่ง (รวมทั้งคนไทย) ฝ่ายอิสราเอลตอบโต้ทันควัน

กองทัพอิสราเอลระดมทิ้งระเบิด และส่งทหารบุกเข้าไปในฉนวนกาซา ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตเกินกว่า 40,000 คนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลเรือนมีทั้งผู้หญิง และเด็กๆ ตามรายงานของกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์

และในขณะนี้นานาชาติกำลังวิตกว่า “ชาวเลบานอน” ก็กำลังจะประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน หลังจากอิสราเอลทิ้งระเบิดถล่มศูนย์บัญชาการกลุ่มติดอาวุธฮิซบอลเลาะห์ในช่วงปลายเดือนก.ย. และการที่อิสราเอลเพิ่งส่งทหารบุกเลบานอนเมื่อวันที่ 1 ต.ค.67

นักวิเคราะห์มองว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้สหรัฐตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ปัจจัยหนึ่งคือ นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ฉวยโอกาสจากความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิสราเอลมาเป็นเวลาอันยาวนาน 

เนทันยาฮู รู้ว่า อย่างไรเสียสหรัฐก็จะปกป้องอิสราเอลจากการโจมตีของอิหร่าน และกลุ่มติดอาวุธมุสลิมที่อิหร่านหนุนหลัง ทำให้เนทันยาฮู เดินหน้าปฏิบัติการทางทหารก่อนแล้วค่อยมาปรึกษาสหรัฐทีหลัง

เลือกตั้งสหรัฐเปิดช่อง  อิสราเอลถล่มหนักกาซา - เลบานอน

และปัจจัยสำคัญมากอีกปัจจัยหนึ่งคือ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พ.ย.67 นี้ โดยฝ่ายประธานาธิบดีไบเดน และรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันต่างใช้ประเด็นสงครามเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการหาเสียง

สงครามกาซาที่มีพลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก เสี่ยงที่จะทำให้คะแนนนิยมของแฮร์ริสลดลงในกลุ่มคนหัวก้าวหน้า กลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ และคนรุ่นใหม่ที่เคยออกมาประท้วงแสดงการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์

คะแนนเสียงนี้สำคัญโดยเฉพาะในมลรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครต และรีพับลิกัน หรือรัฐที่ถูกเรียกว่าเป็นสวิงสเตท  (Swing Sates) เช่น รัฐมิชิแกน ด้วยเหตุนี้ไบเดนจึงพยายามแสดงท่าทีกำกับ ควบคุมอิสราเอล และกดดันให้เกิดการหยุดยิง แต่ไบเดนก็ไม่กล้าบีบอิสราเอลมากจนเกินไป เช่น ไม่กล้าหยุดส่งอาวุธเพื่อลงโทษอิสราเอล เนื่องจากกลัวกระทบคะแนนเสียงของแฮร์ริสในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสวิงสเตท และในกลุ่มของคนอเมริกันเชื้อสายยิว ซึ่งมีอิทธิพลในการเมืองสหรัฐสูงมาก

ด้านทรัมป์ถือโอกาสหาเสียงโจมตีไบเดน และแฮร์ริสว่า อ่อนแอ และกำลังนําสหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สาม

ทรัมป์ สนับสนุนนโยบายขวาจัดของรัฐบาลเนทันยาฮูในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส ด้วยเหตุนี้ สงครามในตะวันออกกลางจึงกลายเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

ในขณะที่นักวิเคราะห์จากสื่อตะวันออกกลาง เช่น อัลจาซีรา มักจะมองว่า “รัฐบาลสหรัฐตีสองหน้า” ด้านหนึ่งบอกให้นานาชาติรู้ว่าตนเองผลักดันการหยุดยิง และเห็นด้วยกับข้อเสนอให้มีสองรัฐอิสราเอล และปาเลสไตน์ (Two-State Solution) แต่อีกด้านก็ส่งอาวุธให้กับอิสราเอลอย่างเต็มกำลัง นักวิเคราะห์โลกอาหรับจำนวนมากเชื่อว่า สหรัฐ และอิสราเอลไม่จริงใจในการเจรจาหยุดยิงในกาซารอบใหม่

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์