‘โกลเด้นวีค’ ปีนี้อาจไม่คึกคัก จีนยัง ‘รัดเข็มขัด’ การใช้จ่าย
"โกลเด้นวีค" วันหยุดยาวประจำชาติจีนปีนี้อาจไม่คึกคัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวยังคงรัดเข็มขัดการใช้จ่า เที่ยวแบบประหยัด ซื้อตั๋วเดินทางราคาถูกๆ
“โกลเด้นวีค” (Golden week) วันหยุดยาวประจำชาติของจีนในปีนี้ เริ่มต้นตั้งแต่วันอังคาร (1ต.ค.) ซึ่งถือเป็นวันเริ่มต้นของการเดินทางที่แสนวุ่นวาย เนื่องจากเป็นวันเฉลิมฉลองครบรอบวันสถาปนาประเทศ 75ปีของจีน จะมีผู้คนเดินทางกลับบ้านและออกไปท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการท่องเที่ยวช่วงหยุดยาวในปีนี้อาจยังไม่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศมากนัก
รัฐบาลคาดการณ์ว่าจำนวนการเดินทางโดยเฉลี่ยต่อวันของภาคการขนส่งในประเทศอาจเติบโต 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่เจ้าหน้าที่จากกระทรวงคมนาคมคาดว่า ช่วงวันหยุดยาวปีนี้จะมีการเดินทางระหว่างเมือง 1,940 ล้านเที่ยว สูงกว่าปีก่อนเล็กน้อย ด้านสำนักงานการรถไฟแห่งชาติคาดว่าตั้งแต่ 29 ก.ย. - 8 ต.ค. อาจมีการเดินทางในประเทศด้วยรถไฟมากกว่า 175 ล้านเที่ยว และระดับการเดินทางจะพุ่งสูงสุดในวันอังคาร (1 ต.ค.) ที่ระดับกว่า 21 ล้านเที่ยว
การเดินทางที่เพิ่มขึ้นย่อมเป็นที่คาดหวังว่านักท่องเที่ยวอาจใช้จ่ายมากขึ้น ด้านกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเผยว่า ช่วงโกลเด้นวีคปี 2566 รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศแตะ 7.53 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ราว 1.5%
แต่ “ชวน เหริน” ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการไชนามาร์เก็ตรีเสิร์ชกรุ๊ป บอกว่า แม้จำนวนเที่ยวเดินทางในประเทศในปีนี้อาจเพิ่มขึ้นมากกว่าระดับในปี 2562 แต่การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวโดยเฉลี่ยต่อหัวอาจต่ำกว่า
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมท่องเที่ยวคาดว่า นักท่องเที่ยวจีนอาจท่องเที่ยวในช่วงโกลเด้นวีคนานกว่าปีที่แล้ว แต่ยังไม่เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายได้
เที่ยวแบบประหยัด
ด้วยเศรษฐกิจชะลอตัวและความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกือบอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า นักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากอาจเลือก “จุดหมายปลายทางภายในประเทศ” ที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า หรือเที่ยวต่างประเทศเพียงระยะเวลาสั้นๆ และซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูก
หวัง ซิน พนักงานออฟฟิศวัย 45 ปี ในกรุงปักกิ่งเผยว่า เธอจะขับรถไปหยางโจวกับครอบครัวในช่วงวันหยุดยาว
“ช่วงวันหยุดไม่มีเก็บค่าผ่านทาง เราจะขับรถแทนเดินทางด้วยรถไฟ มันจะดีกว่าถ้าไม่ใช้เงินไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นในช่วงเศรษฐกิจเป็นแบบนี้” หวังกล่าว และว่า ก่อนมีโควิดครอบครัวของเธอเคยไปเที่ยวหลายที่ในช่วงโกลเด้นวีค เช่น สิงคโปร์และสหรัฐ
หลิว ซีหมิน เจ้าหน้าที่ฝ่ายการท่องเที่ยวของสถาบันวิจัยสังคมจีนเพื่อการศึกษาในอนาคตในกรุงปักกิ่ง บอกว่า “หากการใช้จ่ายท่องเที่ยวเทียบเท่ากับปีก่อน ถือเป็นเรื่องที่ดี ผู้คนอยากเที่ยวถ้าเศรษฐกิจดี แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่โต การท่องเที่ยวก็ไม่โต”
เลือกตั๋วราคาถูก
ไฟลท์มาสเตอร์ แพลตฟอร์มท่องเที่ยว คาดว่า จุดหมายปลายทางต่างประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวจีนที่ต้องการออกนอกประเทศ ยังคงเป็นประเทศที่มีระยะการบินสั้นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย และสิงคโปร์
แพลตฟอร์มดังกล่าวพบด้วยว่า ราคาตั๋วเที่ยวบินสำหรับเดินทางภายในประเทศถูกกว่าช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน 21% ขณะที่ราคาตั๋วเที่ยวบินระหว่างประเทศชั้นประหยัด ถูกกว่าปี 2566 ราว 25% และต่ำกว่าปี 2562 อยู่ 7%
ด้านทริปดอตคอม แพลตฟอร์มจองการท่องเที่ยวออนไลน์ เผยว่า จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจีนอันดับต้น ๆ ยังคงอยู่ในเอเชีย และพบว่า ตั๋วเที่ยวบินเดินทางทั้งภายในและภายนอกประเทศ ลดราคามากกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน
หญิงชาวจีนวัย 30 ปีที่ทำงานในกรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น เผยว่า เธอพบว่าตั๋วเที่ยวบินกลับไปเซี่ยงไฮ้มีราคาเพียง 1,000 หยวน (ราว 4,600 บาท)
“ฉันแปลกใจมากที่มันราคาถูกสุดๆ” หญิงชาวจีน กล่าว
พรูเดนซ์ ไล ที่ปรึกษาวิจัยจากยูโรมอนิเตอร์อินเตอร์เนชันแนล บอกว่า
“นักท่องเที่ยวจีนอ่อนไหวต่อค่าใช้จ่ายอย่างมาก และสายการบินสังเกตได้ว่า ถ้าราคาตั๋วเครื่องบินสูงกว่าที่ผู้บริโภคคาดไว้ เขาจะหันไปเดินทางด้วยวิธีอื่นแทน เช่น รถไฟความเร็วสูง”
ขณะที่ตงกวนซีเคียวริตี เผยในรายงานล่าสุดว่า หากมองในระยะยาว “ความคุ้มค่าของเงิน” ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเดินทางภายในประเทศสำหรับประชาชนทั่วไป
รัฐบาลเร่งกระตุ้นใช้จ่าย
จากสัญญาณของเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่ กิจกรรมการผลิตที่ชะลอตัว และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ล้วนตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงธนาคารกลางจีนจึงประกาศนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นความต้องการใช้จ่ายเมื่อวันอังคารที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา
รัฐบาลท้องถิ่นรวมถึงรัฐบาลในเซี่ยงไฮ้ ได้เริ่มออกบัตรกำนัลแทนเงินสดสำหรับใช้จ่ายภายในร้านอาหาร โรงแรม โรงภาพยนตร์ และศูนย์กีฬาต่าง ๆ ในช่วงโกลเด้นวีค และต่อมาในวันที่ 25 ก.ย. รัฐบาลกลางประกาศแจกเงินเบี้ยเลี้ยงแบบจ่ายครั้งเดียวให้กับประชาชนที่ยากไร้ เช่น เด็กกำพร้า ภายในวันชาติวันที่ 1 ต.ค.
นอกจากนี้ รัฐบาลกลางยังได้พยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ไปเที่ยวจีนมากขึ้น โดยการออกวีซ่าฟรีให้นักท่องเที่ยวจาก 54 ประเทศที่ต้องเปลี่ยนเครื่องบินเพื่อเดินทางต่อ ให้สามารถอยู่ในจีนได้โดยไม่ต้องมีวีซ่านานถึง 144 ชั่วโมง หรือราว 6 วัน ซึ่งสามารถทำกิจกรรมระยะสั้น เช่น การท่องเที่ยว ธุรกิจ การเยี่ยมญาติมิตรในจีนได้ และเมื่อเดือน พ.ค. รัฐบาลได้ออกกฎให้โรงแรมห้ามปฏิเสธชาวต่างชาติ แม้ไม่มีคุณสมบัติที่จำเป็นต่อการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ตาม
อย่างไรก็ตาม แม้นโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ส่งผลต่อการใช้จ่ายอยู่บ้าง แต่อาจส่งผลกระทบอย่างจำกัด โดยนักวิเคราะห์คาดว่า การใช้จ่ายของชาวจีนอาจเพิ่มขึ้น แต่จะไม่เกินระดับการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดยาวในปี 2566
อ้างอิง: Reuters, Nekkei Asia