ราคาน้ำมันพุ่งแรงกว่า 5% รับข่าวไบเดนคุยเรื่องโจมตีคลังน้ำมันอิหร่าน
ราคาน้ำมันพุ่งแรง 3.61 ดอลลาร์ ทะยานกว่า 5% รับข่าวไบเดนคุยอิสราเอลเรื่องความเป็นไปได้ของโอกาสโจมตีคลังน้ำมันอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 5% ในวันพฤหัสบดีที่ 3 ต.ค.67 ท่ามกลางความกังวลต่อการที่อิสราเอลอาจโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน ขณะที่มีรายงานข่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า กำลังหารือกับอิสราเอลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 3.61 ดอลลาร์ หรือ 5.15% ปิดที่ 73.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.72 ดอลลาร์ หรือ 5.03% ปิดที่ 77.62 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ กล่าวว่า เขากำลังหารือกับอิสราเอลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน แต่ก็ย้ำด้วยว่าคงไม่มีอะไรมาก และจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันนี้
ผู้นำสหรัฐกล่าวว่าเขาไม่เชื่อว่าจะเกิด "สงครามเต็มรูปแบบ" ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งกำลังอยู่ในภาวะตึงเครียดเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ขณะที่อิหร่านได้เข้ามาร่วมวงด้วย
ไบเดนกล่าวว่า สงครามเต็มรูปแบบสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่จำเป็นต้องทำมากกว่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าสงครามจะไม่เกิดขึ้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เขามีความมั่นใจแค่ไหนว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงสงครามเต็มรูปแบบได้ เขาหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนตอบว่า "แล้วคุณมั่นใจแค่ไหนว่าฝนจะไม่ตก" เพื่อเปรียบเปรยว่าสงครามก็เหมือนกับฟ้าฝนซึ่งคาดเดาได้ยาก
"แต่ผมไม่เชื่อว่าจะเกิดสงครามเต็มรูปแบบ ผมคิดว่าเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ยังมีอะไรอีกมากมายที่ต้องทำ ยังมีอีกมากทีเดียว"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเขาจะส่งทหารอเมริกันไปช่วยอิสราเอลอีกหรือไม่ เขาตอบว่า "เราช่วยอิสราเอลแล้ว และเราจะปกป้องอิสราเอล"
แดเนียล กาลี นักกลยุทธ์อาวุโสด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของทีดี ซีเคียวริตีส์ เปิดเผยกับซีเอ็นบีซีว่า ความคิดเห็นของไบเดนเป็นตัวเร่งที่ทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
“ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางน่าจะอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซีย” กาลี กล่าว
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะระดับ 200 ดอลลาร์/บาร์เรล หากอิสราเอลตอบโต้อิหร่านด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของน้ำมันในประเทศ และทำให้มีการปิดช่องแคบฮอร์มุซ
บีจาร์น ชิลดรอป หัวหน้านักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคาร SEB กล่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ยังคงมีกำลังการผลิตน้ำมันส่วนเกินที่เพียงพอสำหรับชดเชยการส่งออกน้ำมันที่ลดลงของอิหร่าน ในกรณีที่อิสราเอลทำการโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่าน
อย่างไรก็ดี นายชิลดรอป กล่าวว่า หากการโจมตีดังกล่าวทำให้ผู้ค้าน้ำมันเกิดความกังวลเกี่ยวกับการปิดช่องแคบฮอร์มุซ และมีการเพิ่มค่าพรีเมียมความเสี่ยงเข้าไปในราคาน้ำมัน ก็จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับ 200 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมัน WTI พุ่งขึ้นถึงราว 8% ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความวิตกต่อการที่อิสราเอลอาจโจมตีคลังน้ำมันของอิหร่านเพื่อตอบโต้ต่อการที่อิหร่านยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกถล่มอิสราเอล
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์