หุ้น ‘พินตัวตัว’ ร่วงไม่หยุด! ผลประกอบการย่ำแย่ เผชิญการแข่งขันรุนแรงในจีน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทอีคอมเมิร์ซจีน “พินตัวตัว โฮลดิงส์” (PDD Holdings) ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม Temu ประสบปัญหาหุ้นร่วง หลังออกมาเตือนว่า ผลกำไรของบริษัท “มีแนวโน้มลดลงในระยะยาว” เนื่องจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงในตลาดภายในจีน

PDD ซึ่งเป็นคู่แข่งกับ Alibaba Group กล่าวว่า ทีมงานของบริษัทกำลังดิ้นรนที่จะไล่ตามคู่แข่ง ผู้บริหารยังย้ำถึงแนวทางของบริษัทว่า การเติบโตของยอดขายและกำไรจะชะลอตัวลงในอนาคต หุ้นของบริษัทร่วงลงมากถึง 10% ในช่วงเปิดตลาดของสหรัฐ และร่วงกว่า 16% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา

สำหรับ PDD ประสบปัญหาการขาดทุนในไตรมาสนี้ เนื่องจากมียอดขายและกำไรต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งแม้ว่า PDD ประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างประเทศ โดยอาศัยแอปพลิเคชันช้อปปิ้งยอดนิยมอย่าง Temu แต่ก็ยังต้องเผชิญกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนที่ซบเซาลง 

“เราจะเห็นผลกระทบทางการเงินที่มากขึ้น เนื่องจากเราจะเสียเปรียบคู่แข่งไปอีกสักระยะหนึ่ง” เจ้า เจียเจิน ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ PDD กล่าวกับนักวิเคราะห์ในการประชุมทางโทรศัพท์เมื่อวันพฤหัสบดี “ทีมงานของเรามีข้อจำกัดจากประสบการณ์ในอดีต และขาดความสามารถบางอย่าง”

ทั้งนี้ แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของจีนรายงานรายรับ 99,400 ล้านหยวนในไตรมาสสาม ซึ่งต่ำกว่าประมาณการเฉลี่ยของนักวิเคราะห์ที่ 102,800 ล้านหยวน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 25,000 ล้านหยวน เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ 26,600 ล้านหยวน

ไม่เพียงเท่านั้น สหภาพยุโรปได้เปิดการสอบสวนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจีน โดยตรวจสอบว่าบริษัทดำเนินการเพียงพอหรือไม่ในการต่อสู้กับการขายสินค้าผิดกฎหมาย สหภาพยุโรปสงสัยว่าบริษัทละเมิดกฎหมายบริการดิจิทัลฉบับใหม่ ในการจัดการเนื้อหาผิดกฎหมายและข้อมูลเท็จในออนไลน์ นอกจากนี้ ยังไม่แน่ชัดว่า รัฐบาลทรัมป์จะใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างไร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ Temu 

“มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้น และการเพิ่มขึ้นของการต่อต้านจากหลายประเทศที่เกี่ยวข้องกับสินค้าราคาถูกของ Temu” อลิเซีย ยัป นักวิเคราะห์จาก Citigroup กล่าว “แม้ว่า Temu ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ก็เผชิญกับแรงกดดันหลายด้าน”

ด้านนักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence มองว่า ผลประกอบการของ PDD ในไตรมาสที่ 3 ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยกำไรจากการดำเนินงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 12% เหตุการณ์นี้บ่งชี้ว่าผลประกอบการของ PDD ในอนาคตอาจเติบโตช้าลง โดยคาดการณ์ว่ากำไรจะลดลงอย่างน้อย 10% ภายในปี 2568 แม้ว่ารายได้โดยรวมจะยังคงเติบโตก็ตาม สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในตลาดอีคอมเมิร์ซ ทำให้ต้นทุนในการดำเนินงานสูงขึ้น และอัตรากำไรลดลง

อ้างอิง: bloomberg