นักธุรกิจออสเตรเลียเยือนไทย-ลาว กระชับสัมพันธ์ลงทุน

นายฟ็อกซ์ และนายโอลสันได้รับแต่งตั้งเป็น Business Champion สำหรับประเทศไทยและลาว ตามลำดับ ณ ประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ (2024 ASEAN-Australia Special Summit) เมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำหน้าที่สนับสนุนความเชื่อมโยงทางการค้าระหว่างออสเตรเลียและภูมิภาคนี้  ขณะเดียวกัน นายจอห์น ฮ็อปกินส์ ซีอีโอของ Export Finance Australia และนายเซเวียร์ ซีโมเนต์ ซีอีโอของออสเทรดจะเข้าร่วมคณะผู้แทนด้วย

การเยือนครั้งนี้เน้นย้ำให้เห็นว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญสำหรับธุรกิจออสเตรเลีย ตั้งแต่ SMEs ไปจนถึงบริษัทข้ามชาติ และในหลากหลายภาคธุรกิจไม่ว่าจะเป็นการผลิต โลจิสติกส์ ธุรกิจการเกษตร และทรัพยากรต่าง ๆ บริษัทที่เข้าร่วมคณะนักเจรจาด้านการลงทุนได้แก่ AgCoTech, กลุ่มธนาคาร ANZ, Blackmores, CCL Secure, Eudaemon Technologies, Fibre King, Linfox, Matsa Resources, SunRice และ TomKat Global Solutions

นายฟ็อกซ์ระบุ  

“Linfox ดำเนินธุรกิจครอบครัวของเราในประเทศไทยอย่างภาคภูมิใจยาวนานกว่า 30 ปี  ประเทศไทยเป็นตลาดธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้มากมายสำหรับธุรกิจออสเตรเลียในภูมิภาคนี้ บริษัทออสเตรเลียต้องทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย”

ดร. แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยต้อนรับนักเจรจาด้านการลงทุนในครั้งนี้ ซึ่งเดินทางมาไทยเพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่รัฐมนตรีช่วยด้านการค้าออสเตรเลีย ฯพณฯ ทิม แอรส์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น ร่วมเป็นประธานการประชุมยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจไทย-ออสเตรเลียครั้งแรก

“ออสเตรเลียและไทยทำสถิติมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงสุดถึง 30,800 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียในปีที่แล้ว” เอกอัครราชทูตแมคโดนัลด์ กล่าว

“ออสเตรเลียกำลังมองหาการต่อยอดในภาคธุรกิจโดยการลงทุนในประเทศไทย ทั้งนี้คณะผู้แทนจะพบกับผู้แทนรัฐบาลระดับสูงของไทย ภาคธุรกิจไทย สถาบันการเงิน และธุรกิจออสเตรเลียที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์การลงทุนและโอกาสที่มีร่วมกัน”

นับเป็นเวลาหนึ่งปีตั้งแต่นายแอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดตัวรายงานยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สู่พ.ศ. 2583 ซึ่งจัดทำโดย นายนิโคลัส มัวร์ ยุทธศาสตร์นี้ได้ระบุว่าภาคการเกษตรและอาหาร การศึกษา เศรษฐกิจดิจิทัล และการเปลี่ยนผ่านพลังงานสีเขียวเป็นภาคส่วนหลักระหว่างออสเตรเลียและไทยที่จะเติบโตไปด้วยกันได้

นายมัวร์ กล่าวว่ามีความก้าวหน้าอย่างมากในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์นี้ ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และการจัดตั้งคณะผู้เจรจาด้านการลงทุน เพื่อระบุ พัฒนา และอำนวยความสะดวกในการลงทุนในโครงการเชิงพาณิชย์ทั่วทั้งภูมิภาค รวมถึงในประเทศไทย

“ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างออสเตรเลียและไทยเป็นสิ่งสำคัญและกำลังเติบโตขึ้น” เขากล่าว

“วาระหลักทางเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยสอดคล้องกับของออสเตรเลีย และเราจะเห็นความเชื่อมโยงจากการเยือนของคณะผู้แทนการค้าเศรษฐกิจสีเขียวของออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมไปถึงคณะผู้แทนการค้าเศรษฐกิจดิจิทัลในเดือนสิงหาคม”

“การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวมีส่วนทำให้ภูมิภาคของเราเจริญรุ่งเรืองและมั่นคง และผมยินดีที่ภารกิจนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่นำไปสู่ทิศทางเดียวกัน”

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคณะผู้เจรจาด้านการลงทุนของออสเตรเลียในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ของออสเทรด