จับตา! จีนจ่อแถลงมาตรการกระตุ้นใหม่เสาร์นี้ (12 ต.ค.) หลังตลาดผิดหวังแพ็กเกจเดิม

จับตา! จีนจ่อแถลงมาตรการกระตุ้นใหม่เสาร์นี้ (12 ต.ค.) หลังตลาดผิดหวังแพ็กเกจเดิม

จีนเร่งออกโรงกู้วิกฤติ จ่อแถลงมาตรการกระตุ้นใหม่เสาร์นี้ (12 ต.ค.) หวังพลิกเกมหลังตลาดผิดหวังมาตรการเดิมเม็ดเงินน้อยเกินไปจนทำหุ้นร่วงหนัก

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานถ้อยแถลงจากทางการจีนวันนี้ (10 ต.ค.) ว่า หลาน ฝ่ออัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของจีน จะจัดการแถลงข่าวในวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติมหลังจากนักลงทุนผิดหวังมาตรการเดิมเม็ดเงินน้อยเกินไป

ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนขาดทุนลดน้อยลงและเงินหยวนในตลาดนอกประเทศแข็งค่าขึ้นหลังการประกาศข้างต้น เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่ารัฐบาลอาจเปิดเผยมาตรการกระตุ้นการคลังในการแถลงข่าว โดยทิศทางของตลาดหุ้นจีนจะชัดเจนมากขึ้นหลังจากการแถลงนโยบายในวันเสาร์

จับตา! จีนจ่อแถลงมาตรการกระตุ้นใหม่เสาร์นี้ (12 ต.ค.) หลังตลาดผิดหวังแพ็กเกจเดิม ภาวะหุ้นจีนเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.)

"เป็นไปได้ยากมากที่รัฐบาลจะออกนโยบายกระตุ้นจำนวนมหาศาล" เจียง เหลียงชิง กรรมการผู้จัดการของ Zhuhai Greenbamboo Private Fund Management กล่าว โดยอ้างถึงความเสี่ยงของการใช้จ่ายที่ขับเคลื่อนด้วยหนี้ พร้อมเสริมว่า "มันมีเพดานจำกัดอยู่ว่ามาตรการของทางการจีนจะไปได้มากขนาดไหนก่อนที่หลังจากนั้นจะเป็นหายนะของเศรษฐกิจจีน"

ดัชนี CSI 300 ของจีนปิดตลาดลดลง 7.1% เมื่อวานนี้ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกใน 11 วันทำการ และเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 โดยสัญญาล่วงหน้าจากพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของปักกิ่งฟื้นตัว 0.5% ในช่วงบ่ายหลังจากก่อนหน้านี้ซึ่งปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากกดตัวลง ส่วนความเคลื่อนไหวของเงินหยวนในตลาดต่างประเทศเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นมองหาการใช้จ่ายทางการคลังที่มากขึ้นเพื่อเป้าหมายการเติบโตประมาณ 5% ในปี 2567 โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดหวังการประกาศจากกระทรวงการคลัง ซึ่งมักเป็นการออกพันธบัตรเพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่หน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจของจีนทำให้นักลงทุนผิดหวังเมื่อวันอังคารด้วยการประกาศเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจที่น้อยจนเกินไป

"นี่เป็นการแถลงข่าวที่ได้รับความสนใจสูง เนื่องจากนโยบายการคลังเป็นจุดสนใจของตลาด"

บรูซ พาง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์สำหรับมหาจีนที่ Jones Lang LaSalle Inc. กล่าว พร้อมเสริมว่า "เฉพาะการใช้จ่ายโดยกระทรวงการคลังเท่านั้นที่จะทำให้โครงการที่ประกาศโดยหน่วยงานเศรษฐกิจคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ  (NDRC) สามารถดำเนินการได้ และการผ่อนคลายทางการเงินจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่แท้จริง"

รายได้จากพันธบัตรเหล่านี้ซึ่งวางแผนไว้ทั้งหมด 1 ล้านล้านหยวนสำหรับปีนี้ มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนโครงการระดับชาติที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยี โครงสร้างพื้นฐานในเมือง และการบรรเทาภัยพิบัติ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังใช้พันธบัตรบางส่วนเพื่อสนับสนุนการซื้ออุปกรณ์ในอุตสาหกรรมและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า โดยคณะกรรมการฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่ารัฐบาลจะขายพันบัตรดังกล่าวต่อไปในปีหน้า

ธนาคารต่างๆ อย่าง Morgan Stanley และ HSBC Holdings Plc คาดการณ์ว่าจะมีการกระตุ้น 2 ล้านล้านหยวน (283 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

ในขณะที่ Citigroup Inc. ประเมินจำนวนพันธบัตรที่จะขายไว้ที่ 3 ล้านล้านหยวน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ถึงมาตรการต่างๆ เช่น การสนับสนุนการจัดหาเงินทุนของรัฐบาลท้องถิ่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การกระตุ้นการบริโภค และการเพิ่มทุนให้ธนาคาร

เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของภาคเอกชนและนักลงทุน นายกรัฐมนตรีจีน หลี่ เฉียง สัญญาเมื่อวันอังคารว่าจะ "รับฟังเสียงของตลาด" เมื่อกำหนดนโยบายเศรษฐกิจ คำพูดของเขาสะท้อนถึงการเรียกร้องล่าสุดของฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นองค์กรตัดสินใจสูงสุดของจีนให้ "เผชิญหน้ากับความยากลำบาก" ซึ่งเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนที่ปักกิ่งต้องการเสริมสร้างความเชื่อมั่นหลังจากเศรษฐกิจเติบโตในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบห้าไตรมาส

ทั้งนี้ ก่อนวันหยุดยาวของจีน รัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นมากมาย รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ย การเพิ่มสภาพคล่องเพื่อส่งเสริมการปล่อยกู้ของธนาคาร และคำมั่นสัญญาที่จะใช้เงินสูงถึง 3.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อสนับสนุนตลาดหุ้น ความพยายามเหล่านี้ทำให้หุ้นจีนพุ่งขึ้นประมาณ 30%

ธนาคารประชาชนจีน (PBOC) กล่าวเพิ่มเติมจากการดำเนินการอย่างเร่งด่วนที่มุ่งเสถียรภาพการเติบโต เมื่อวันพุธว่าได้จัดการประชุมร่วมครั้งแรกกับกระทรวงการคลังเมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับการกระจายเครื่องมือนโยบายการเงิน และการเพิ่มการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลของธนาคารกลางในตลาดเปิด

PBOC กำลังปรับปรุงกรอบนโยบาย รวมถึงการเคลื่อนไหวเพื่อจัดการสภาพคล่องระหว่างธนาคารผ่านการซื้อขายพันธบัตร เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของการปรับนโยบายการเงินในการช่วยเหลือเศรษฐกิจและควบคุมความเสี่ยงของการเก็งกำไรในตลาดพันธบัตร

ทางการกล่าวว่าจะเสริมสร้างการประสานนโยบายอย่างต่อเนื่องและสร้าง "สภาพแวดล้อมตลาดที่เหมาะสม" สำหรับการซื้อขายพันธบัตรโดยธนาคารประชาชนจีน

อ้างอิง: Bloomberg