Berkshire ของ ‘บัฟเฟตต์’ ออกหุ้นกู้เงินเยนเฉียด 3 แสนล้าน จุดความหวังลงทุนญี่ปุ่น

Berkshire ของ ‘บัฟเฟตต์’ ออกหุ้นกู้เงินเยนเฉียด 3 แสนล้าน จุดความหวังลงทุนญี่ปุ่น

การระดมทุนครั้งใหญ่ของ ‘Berkshire Hathaway’ ผ่านหุ้นกู้ 'ซามูไรบอนด์' จุดกระแสความหวังให้กับตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังจากที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทยอยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นมาอย่างต่อเนื่อง

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า “Berkshire Hathaway” กลุ่มธุรกิจโฮลดิ้งขนาดใหญ่ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนระดับตำนานของสหรัฐ ได้ขายหุ้นกู้หลายชุดในมูลค่า 281,800 ล้านเยน เมื่อวันพฤหัสบดี (10 ต.ค.67) ซึ่งช่วยจุดประกายความหวังว่า นักลงทุนระดับตำนานคนนี้จะเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ของญี่ปุ่นมากขึ้น

สำหรับตัวหุ้นกู้ บริษัท Berkshire Hathaway ได้ระดมทุนจากการออกหุ้นกู้สกุลเงินเยน 7 ชุด ครอบคลุมอายุ 3-30 ปี มูลค่ารวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 545,100 ล้านเยน จนทำให้บริษัทเป็นผู้นำตลาดตราสารหนี้เยนในปีนี้ โดยหุ้นกู้ส่วนใหญ่ที่ออกมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกู้ชุดก่อนหน้า

การระดมทุนดังกล่าวกำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดโดยนักลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากบัฟเฟตต์ได้ใช้เงินเยนที่ระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ เพื่อซื้อหุ้นในบริษัทญี่ปุ่น การเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นของเขาใน 5 บริษัทการค้ารายใหญ่ได้ช่วยผลักดันดัชนี Nikkei 225 ให้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นปีนี้ 

หากการลงทุนของ Berkshire ขยายไปยังหุ้นอื่นๆ เช่น ธนาคาร ประกันภัย และเรือเดินสมุทร ตามที่นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ อาจนำไปสู่การปรับขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่นโดยรวมมากขึ้น

“ความจริงที่ว่าบริษัทสามารถระดมทุนได้มากขนาดนี้ในปีเดียว เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อ Berkshire” ฮารุยาสุ คาโตะ ผู้จัดการกองทุนในโตเกียวที่ Asset Management One Co. กล่าว “นอกจากนี้ ยังเป็นข้อตกลงที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของความต้องการจากนักลงทุนญี่ปุ่นสำหรับหนี้ที่ให้ผลตอบแทนดี”

ด้าน มิตสึชิเงะ อาคิโนะ ประธานของ Ichiyoshi Asset Management มองว่า “ตลาดกำลังให้ความสนใจกับหุ้นที่บัฟเฟตต์อาจซื้อ มีหุ้นใดบ้างที่ตรงตามมาตรฐานของเขา”

“อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนต่างชาติ โมเมนตัมความดึงดูดของหุ้นญี่ปุ่นได้ผ่านไปแล้ว และไม่เหมือนกับว่าคุณจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังหากคุณไม่ซื้อตอนนี้” อาคิโนะ กล่าวเสริม

ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น ยังคงนโยบายเดิมในการประชุมครั้งต่อไป และนักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดว่า อัตราดอกเบี้ยจะไม่ปรับขึ้นในสิ้นปีนี้ สอดคล้องกับทัศนะของนายกรัฐมนตรีที่เห็นว่าสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม

อ้างอิง: bloomberg

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์